เหตุระเบิดนิวเคลียร์ (Photo: Internet) |
นี่เป็นครั้งที่2ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีประกาศเกี่ยวกับความสำเร็จในการทดลองระเบิดไฮโดรเจน ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่6มกราคมปี2016 เปียงยางได้เผยว่า ประสบความสำเร็จในการทดลองระเบิดไฮโดรเจนก่อนพิธีฉลองวันคล้ายวันเกิดของผู้นำ คิมจองอึน พร้อมทั้ง เผยว่า การทดลองระเบิดไฮโดรเจนก็เพื่อปกป้องประเทศจากภัยคุกคามของสหรัฐ ซึ่งจากความสำเร็จในการทดลองระเบิดดังกล่าว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนานิวเคลียร์ แต่อย่างไรก็ดี ในช่วงนั้น สำนักข่าวกรองสาธารณรัฐเกาหลีได้เผยว่า การทดลองเมื่อวันที่6มกราคมไม่ใช่การทดลองระเบิดไฮโดรเจนหลังจากที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสาธารณรัฐเกาหลีเผยว่า ไม่พบการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี
อันตรายของระเบิดไฮโดรเจน
ระเบิดไฮโดรเจนเป็นอาวุธนิวเคลียร์รุ่นที่2ที่สหรัฐเริ่มทำการวิจัยเมื่อปี1950 ซึ่งระเบิดไฮโดรเจนถือว่า มีพลังทำลายล้างมากกว่านับพันเท่าเมื่อเทียบกับระเบิดปรมาณู โดยผลการทดลองของสหรัฐในฐานทดลองนิวเคลียร์บิกินี่เมื่อปี1954ได้แสดงให้เห็นว่า ระเบิดไฮโดรเจนมีพลังทำลายล้างสูงกว่าระเบิดปรมาณูที่สหรัฐทิ้งถล่มเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี1945ถึง1พันเท่าและในปัจจุบัน มีเพียง5ประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์คือ สหรัฐ รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศสและจีนที่ประกาศว่า มีระเบิดไฮโดรเจนไว้ในครอบครอง ส่วนอินเดียและปากีสถานมีแค่ระเบิดปรมาณูไว้ในครอบครองเท่านั้น ดังนั้น ความสำเร็จในการผลิตระเบิดไฮโดรเจนครั้งนี้ของเปียงยางจึงเป็นสิ่งที่ประชามติโลกวิตกกังวลเนื่องจากนี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า เปียงยางได้มีพัฒนาการอย่างข้ามขึ้นในการผลิตระเบิดนิวเคลียร์ สิ่งที่น่าสนใจคือ หลังการทดลองครั้งนี้ เมื่อวันที่3กันยายน เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐได้ยอมรับว่า เปียงยางทำการทดลองอุปกรณ์นิวเคลียร์ที่ทันสมัยและมีความเป็นไปได้ว่า เป็นระเบิดไฮโดรเจนตามการประกาศก่อนหน้านั้นของสื่อมวลชนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ในขณะเดียวกัน ในการประเมินครั้งล่าสุดของสำนักข่าวกรองสหรัฐได้ชี้ชัดว่า พลังการทำลายล้างของระเบิดไฮโดรเจนที่เปียงยางทดลองเมื่อวันที่3กันยายนเท่ากับระเบิดทีเอ็นที140กิโลตัน ซึ่งสูงกว่าตัวเลข50หรือ70กิโลตันตามการประเมินของสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่น
นาย Han Tae Song เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ยืนยันว่า เปียงยางได้ประสบความสำเร็จในการทดลองนิวเคลียร์และมาตรการป้องกันตัวเองครั้งล่าสุดของเปียงยางก็เป็น “ของขวัญ”ให้แก่สหรัฐ พร้อมทั้ง เตือนว่า สหรัฐจะได้รับ “ของขวัญ”อีกหลายชิ้นจากเปียงยาง
จากปฏิบัติการต่างๆของเปียงยาง คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เรียกประชุมฉุกเฉินตามข้อเสนอของสหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศสและสาธารณรัฐเกาหลี ในการนี้ บรรดาผู้แทนได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อเปียงยาง โดยนาย Nikki Haley เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติได้เรียกร้องให้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรที่แข็งกร้าวที่สุดต่อเปียงยาง ฝ่ายต่างๆได้เห็นพ้องที่จะสงวนเวลา1สัปดาห์เพื่อหารือเกี่ยวกับท่าทีต่อการกระทำที่สร้างความไร้เสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลีและจะลงคะแนนอนุมัติในวันที่11กันยายนนี้
ประชาชนเฝ้าติดตามการทดลองนิวเคลียร์ของเปียงยาง (Photo: AFP/TTXVN) |
ประเทศต่างๆในภูมิภาคเพิ่มทักษะความสามารถในการป้องกันตนเอง
การที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีทดลองยิงขีปนาวุธครั้งต่างๆ โดยเฉพาะ ความสำเร็จในการทดลองระเบิดไฮโดรเจนได้ทำให้สหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีเห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหมและเพิ่มทักษะความสามารถในการป้องกันตนเองของสาธารณรัฐเกาหลี โดยสนธิสัญญาเกี่ยวกับการกำหนดการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปของสาธารณรัฐเกาหลีที่ได้ลงนามระหว่างสองประเทศได้รับการปรับปรุง โดยอนุญาตให้สาธารณรัฐเกาหลีเพิ่มน้ำหนักหัวรบติดขีปนาวุธมากกว่า500กิโลกรัมตามกำหนดเดิม ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีทวีความตึงเครียดมากขึ้น ประธานาธิบดีสหรัฐได้ประกาศว่า จะอนุญาตให้ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีซื้ออาวุธที่ทันสมัยของสหรัฐ มูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภายหลัง2วันที่เปียงยางทดลองระเบิดไฮโดรเจน เมื่อค่ำวันที่5กันยายน จีนได้จัดการซ้อมรบเพื่อรับมือกับขีปนาวุธ โดยกองกำลังป้องกันขีปนาวุธจีนสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธในการจำลองโจมตีในเขตทะเลฮว้างเฮื้อ นาย หลีเจี๋ย ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลได้ให้ข้อสังเกตว่า ปฏิบัติการของจีนต่อการทดลองระเบิดไฮโดรเจนครั้งล่าสุดของเปียงยางเป็นสัญญาณที่แข็งกร้าวที่จีนอยากส่งถึงเปียงยางเพื่อประณามการกระทำที่ยั่วยุของประเทศเพื่อนบ้าน
การทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่6ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ผ่านขีดจำกัดระดับสีแดงที่สหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีกำหนดให้แก่เปียงยาง ซึ่งสร้างความเสี่ยงที่จะนำไปสู่การเพิ่มปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาค.