 นาย เหงียนก๊วกหยุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ |
ปี 2020 ครบรอบ 5 ปีที่อาเซียนได้รวมกันเป็นประชาคม บนพื้นฐานที่มั่นคงของการพัฒนาในตลอดกว่า 5 ทศวรรษ แม้มีความหลากหลายในด้านเศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม บรรดาประเทศอาเซียนกำลังสร้างความเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นเนื่องจากมีคุณค่า ความเป็นมิตร ความรับผิดชอบและผลประโยชน์ร่วมกัน ท่ามกลางบรรยากาศโลกและภูมิภาคที่นับวันซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความเชื่อมโยงที่ยั่งยืนจึงมีความหมายสำคัญเป็นอย่างมากต่ออาเซียน
ในสภาวการณ์ดังกล่าว ในฐานะประธานอาเซียน 2020 เวียดนามกำลังมุ่งสู่เป้าหมาย “ความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว” เพื่อธำรงผลประโยชน์ร่วมกันทั้งในด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจของทุกประเทศสมาชิกและรณรงค์ให้ชาวอาเซียนตระหนักได้ดีเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของประชาคม
ส่งเสริมความเชื่อมโยงที่ยั่งยืนของอาเซียน
ตลอด 50 ปีแห่งการคงอยู่และพัฒนา ความเชื่อมโยงได้สร้างความแข็งแกร่งและสถานะที่สูงเด่นให้แก่อาเซียน ซึ่งช่วยให้บรรดาประเทศสมาชิกมีความใกล้ชิดกันมากขึ้นและสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตและผลประโยชน์ร่วมกัน เพราะว่า แม้มีความใกล้ชิดในด้านภูมิศาสตร์แต่ก็ยังคงมีความแตกต่างกันในด้านการเมือง วัฒนธรรม ภาษาและระดับการพัฒนา จากความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้น ประชาคมอาเซียนจะยกระดับทักษะความสามารถในการปรับตัวและเป็นฝ่ายรุกมากขึ้นเพื่อใช้โอกาสและฟันฝ่าความท้าทายต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกลายเป็นปัจจัยที่นับวันสำคัญมากขึ้นในกลไกความร่วมมือระดับภูมิภาคและโลก
ในสภาวการณ์โลกปัจจุบัน โดยเฉพาะการแข่งขันด้านยุทธศาสตรระหว่างบรรดาประเทศมหาอำนาจที่นับวันรุนแรงมากขึ้น ปัญหาต่างๆของโลกอาจส่งผลกระทบในทางลบต่ออาเซียน โดยเฉพาะการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ที่กำลังทำให้บรรดาประเทศอาเซียนต้องรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ดังนั้นในปีอาเซียน 2020 เวียดนามได้เลือกหัวข้อ “ความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว” เพราะว่า ประชาคมที่มีความเชื่อมโยงและพัฒนาจะต้องเพิ่มการเป็นฝ่ายรุกในการปรับตัวเข้ากับผลกระทบจากภายนอกและความสามารถของการเป็นฝ่ายรุกในการปรับตัวจะเกิดประสิทธิผลก็ต่อเมื่ออาเซียนเป็นประชาคมที่มีการเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นไร้รอยต่อ นาย เหงียนก๊วกหยุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามแสดงความคิดเห็นว่า “สิ่งที่สำคัญคือ ประชาคมต้องมีความเชื่อมโยงกัน อาจเป็นความสามัคคี ความเป็นเอกฉันท์และการเชื่อมโยงทั้งในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและความตระหนักของชุมชนและสถานประกอบการเกี่ยวกับผลประโยชน์ร่วมกันของประชาคม เราต้องมีความคิดในภาพรวม โดยควรร่วมปฏิบัติในระดับประชาคมแทนการปฏิบัติในระดับละประเทศ โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ได้เอื้อประโยชน์และมีความท้าทายต่างๆ ซึ่งเราไม่เพียงแต่ต้องเตรียมความพร้อมให้แก่อาเซียนเท่านั้น หากยังต้องเตรียมความพร้อมให้แก่ทั้งประชาคมเพื่อสามารถปรับตัวได้อย่างเข้มแข็ง”
หน้าที่เก่า ความท้าทายใหม่
ปี 2020 ครบรอบ 25 ปีที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียนและเป็นครั้งที่ 2 ที่เวียดนามดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ภายหลัง 10 ปี บทบาทและสถานะของเวียดนาม อาเซียน สถานการณ์โลกและภูมิภาคล้วนมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ต้องทำอย่างไรเพื่อสามารถธำรงอัตราการพัฒนาของอาเซียน สาส์นต่อและส่งเสริมผลที่ได้บรรลุ โดยเฉพาะการเพิ่มอัตราการพัฒนาผ่านความคิดริเริ่มต่างๆ ซึ่งคือเป้าหมายของเวียดนามในฐานะประธานอาเซียนปี 2020 นาย เหงียนก๊วกหยุง เผยต่อไปว่า “เราต้องสร้างนิมิตหมายใหม่ให้อาเซียนปฏิบัติในปีต่อๆไป โดยเฉพาะเสร็จสิ้นแผนการเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน 2025 ถ้าหากตระหนักได้ดีแล้ว อาเซียนจะมีความเชื่อมโยงมีทัศนะและจุดยืนร่วมกันในปัญหาระดับภูมิภาคและโลก ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้ว อาเซียนได้เห็นพ้องกันความคิดริเริ่มของบรรดาประเทศมหาอำนาจในเรื่องระเบียงและเส้นทาง เกี่ยวกับภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย – แปซิฟิก ซึ่งเป็นความพยายามที่น่ายินดีและเวียดนามจะพยายามผลักดันเรื่องนี้ในปี 2020 ในฐานะประธานอาเซียน”
ควบคู่กันนั้น ในปีที่ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน 2020 เวียดนามยังให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการปรับตัวเข้ากับการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะร่วมกับบรรดาประเทศสมาชิกเน้นฝึกอบรมแหล่งบุคลากรที่สามารถปรับตัวเข้ากับการปฏิวัติครั้งนี้ เน้นถึงการทำธุรกิจ start – up และผลักดันเครือข่ายตัวเมืองอัจฉริยะอาเซียน
แม้เป็นประเทศที่เข้าร่วมอาเซียนหลังหลายๆประเทศแต่ในตลอด 25 ปีที่เป็นสมาชิกอาเซียน เวียดนามได้แสดงเจตนาที่ดี ความพยายาม ความกระตือรือร้นและความรับผิดชอบเพื่อมีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จต่างๆของอาเซียน อาเซียนมีบทบาทสำคัญในด้านยุทธศาสตร์ของเวียดนามและได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการต่างประเทศ ในปี 2020 ที่เวียดนามดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนและในปีต่อๆไป เวียดนามจะมุ่งสู่การสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็ง เจริญรุ่งเรืองและเพื่อประชาชน.