รองศาสตราจารย์ ดร. หวูหมิงห์เคือง อาจารย์อาวุโสของสถาบันนโยบายสาธารณะ ลี กวน ยู ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ |
ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุเวียดนาม รองศาสตราจารย์ ดร. หวูหมิงห์เคือง อาจารย์อาวุโสของสถาบันนโยบายแห่งรัฐ ลี กวน ยู ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ได้ยืนยันถึงข้อเท็จจริงนี้ ขอเชิญท่านฟังสาระสำคัญในการสัมภาษณ์ค่ะ
ผู้สื่อข่าว: การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 เพิ่งเสร็จสิ้นลงโดยได้กำหนดเป้าหมายในการสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามคือ "ความเจริญรุ่งเรือง - ความสุข" ท่านคิดว่าอะไรเป็นแรงจูงใจให้พรรคกำหนดเป้าหมายนี้?
รศ. หวูมิงห์เคือง: ผมคิดว่า เป้าหมายนี้ที่พรรควางไว้คือเพื่อปฏิบัติความปรารถนาอันแรงกล้าที่มีมานานถึงนับพันปีของบรรพบุรุษของเรา ถึงเวลที่พวกเราสามารถรวมพลังที่เข้มแข็งพอเพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้ใน 2-3 ทศวรรษข้างหน้า ผมคิดว่า นี่คือเป้าหมายที่ชาญฉลาดที่พรรคได้เลือกเฟ้น เพื่อปฏิบัติภารกิจที่ยิ่งใหญ่จะต้องมีพลังขับเคลื่อนหลักสามประการ อันดับแรกคือจิตใจแห่งประชาชาติ ประการที่สองคือความมุ่งมั่นเปิดรับและประยุกต์ใช้สิ่งใหม่ๆ และประการที่สามคือความสามารถด้านนวัตกรรม ในแง่ของจิตใจแห่งประชาชาติ เวียดนามมีความแข็งแกร่งที่ได้รับการพิสูจน์ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยพวกเราสามรถเอาชนะศักตรูที่มารุกรานทั้งหยวนเหมินและประเทศมหาอำนาจเพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพ และยังคงรักษาเอกราชของประเทศมาได้ตลอดนับพันปีของประวัติศาสตร์ สำหรับความมุ่งมั่นเปิดรับและประยุกต์ใช้สิ่งใหม่ๆ ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ได้นำประเทศเวียดนามอยู่ในแถวหน้าของกระแสแห่งยุคสมัยใหม่ ทำให้ประเทศต่างๆในภูมิภาคต้องยอมรับและชื่นชมเวียดนาม เพราะเวียดนามพัฒนาอย่างรวดเร็ว สำหรับความสามารถในด้านนวัตกรรม ตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์สมัยที่ 12 จนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้มีก้าวเดินที่สำคัญต่างๆถึงแม้ยังไม่ตอบสนองความต้องการพัฒนาประเทศพัฒนาอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ผมคิดว่า ก็เป็นการสร้างนิมิตหมายที่สำคัญและการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 อาจเปิดกระบวนการใหม่เพื่อให้เวียดนามสามารถมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ผู้สื่อข่าว: บนพื้นฐานของสิ่งที่ได้สร้างไว้ ท่านคิดว่าอะไรเป็นพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อให้พวกเราปฏิบัติเป้าหมายสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่มั่งคั่งและมีความสุขที่ทางพรรคได้วางไว้?
รศ. ดร. หวูมิงห์เคือง: สำหรับเวียดนาม ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือจิตใจแห่งความมุ่งมั่นของประชาชาติซึ่งเป็นพลังที่เข้มแข็งที่ไม่มีใครเทียบได้ นี่ไม่ใช่แค่ความคาดหวังพัฒนา หากเป็นเรื่องความอยู่รอดของประเทศ ผ่านช่วงเวลาต่างๆ ผมมักจะนึกถึงคำเรียกร้องของลุงโฮในปฏิญญาเอกราชและในคำเรียกร้องทั่วประเทศลุกขึ้นสู้จนเข้าใจว่า มันเป็นพลังที่เข้มแข็งที่ไม่มีใครเทียบได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำงานที่ไหนก็ยังคงมุ่งใจสู่ปิตุภูมิ การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 ได้จุดประกายความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของประชาชาติ และจิตใจที่แน่วแน่ในการลุกขึ้นสู้ก้าวเดินอย่างเข้มแข็งเพื่อพัฒนาเป็นประเทศที่ทันสมัยในอีก 25 ปีข้างหน้า ผมคิดว่าจะมีก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่
ผู้สื่อข่าว: ตามความเห็นของท่าน ควรระดมพลังที่เข้มแข็งภายในและพลังที่เข้มแข็งจากทุกภาคส่วนเพื่อเป้าหมายนี้อย่างไร?
รศ. ดร. หวูมิงห์เคือง: ผมคิดว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่พิเศษมากในศตวรรษที่ 21 นี้ เพราะมีความสามารถในการใช้ประโยชน์จากการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ทำให้โลกได้รับประโยชน์เช่นกัน เวียดนามเป็นตัวอย่างที่ทุกคนเห็นว่ามีความพิเศษ พลังที่เข้มแข็งของเวียดนามในปัจจุบันกำลังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่จากพลังที่เข้มแข็งภายในเท่านั้น หากยังได้รับการสร้างเสริมการผสานเข้ากับโลกอีกด้วย ซึ่งเป็นแนวโน้มเฉพาะสำหรับการพัฒนาในศตวรรษที่ 21 นี้ เวียดนามผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ร่วมมือกับสหรัฐ อียู จีนและเอเชียตะวันออกเฉียงซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นประชาชาติที่มีความรับผิดชอบและมีความพยายามเป็นอย่างมาก จากประเทศที่มีสถานะต่ำ ปัจจุบัน เวียดนามมีบทบาทและสถานะที่นับวันสูงเด่นบนเวทีโลก นี่ไม่ใช่ความพยายามก้าวรุดหน้าไปแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น หากเวียดนามได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบต่อโลกอีกด้วย สิ่งที่เวียดนามได้ทำประโยชน์ต่อโลก ปัจจุบัน เวียดนามกำลังพยายามสร้างสรรค์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้อยู่อันดับที่ 4 ถึง 5 ของโลกในอนาคตอันใกล้นี้และก้าวทันกับจีนและอินเดีย เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจของประเทศตะวันตกในการพัฒนา ผมอยากย้ำถึงการผสานผลประโยชน์ของประชาชาติเวียดนามที่ในความพยายามกลายเป็นประเทศพัฒนาในอีก 25 ปีข้างหน้า
ที่ท่านได้รับฟังจบลงไปแล้วนั้นคือเนื้อหาในการสัมภาษณ์รองศาสตราจารย์ ดร. หวูมิงห์เคือง ของผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามเกี่ยวกับการกำหนดพลังขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่ "มั่งคั่ง - มีความสุข" ในอีก 25 ปีข้างหน้า
รองศาสตราจารย์ดร. หวูมิงห์เคืองและประชาชนเวียดนามหลายสิบล้านคนมีความเชื่อมั่นต่อการนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ
น่าภาคภูมิใจที่สถานะของเวียดนามนับวันได้ยกระดับให้สูงขึ้นบนเวทีโลก
ความมุ่งมั่นและความคาดหวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่และความคิดสร้างสรรค์ซึ่งที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 จุดประกายในฤดูใบไม้ผลินี้ ทำให้ชาวเวียดนามทุกคนมีความเชื่อมั่น มีความรักและสามัคคีมากขึ้นเพื่อระดมการสนับสนุนพรรค และมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อสร้างภารกิจที่ยิ่งใหญ่
เราขอปิดท้ายรายการพิเศษในวันที่ 1 ของตรุษเต๊ตปีฉลูภายใต้หัวข้อ "ยิ่งมีความเชื่อรัก " ด้วยความมั่นใจว่า ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ประชาชนและประเทศจะมีฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยความสุข ความเจริญรุ่งเรือง
ในโอกาสปีใหม่ประเพณีเวียดนาม ขอให้คุณผู้ฟังทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงและประสบความสำเร็จ
พบกันใหม่ในรายการตรุษเต๊ตวันที่ 2 ค่ะ สวัสดีปีใหม่ครับ.