บทบาทของสตรีในโลก

Quang Dung
Chia sẻ
(VOVWORLD) - วันนี้เป็นวันสตรีสากล 8 มีนาคม นับตั้งแต่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากสหประชาชาติเมื่อปี 1975 บทบาทที่สำคัญของสตรีในประเทศต่าง ๆ ได้รับการยืนยันในทุกด้าน ตั้งแต่การเมือง เศรษฐกิจ ไปจนถึงสังคม แต่อย่างไรก็ตาม สตรียังคงต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในกระบวนการการลดช่องว่างทางเพศ
บทบาทของสตรีในโลก - ảnh 1ผู้หญิงกำลังมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในทุกด้านของชีวิตในประเทศต่างๆ ทั่วโลก (Future Worlds)

 

วันสตรีสากล 8 มีนาคมได้รับการรำลึกนับตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากสหประชาชาติเมื่อปี 1975 นี่เป็นโอกาสเพื่อให้โลกรับทราบส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ของสตรีและเดินหน้าส่งเสริมความพยายามเพื่อความเสมอภาคทางเพศ

ส่วนร่วมที่สำคัญของสตรี

สตรีกำลังมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในทุกด้านของชีวิตในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตามรายงานการวิเคราะห์เมื่อปีที่แล้วของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody's ปรากฎว่า อัตราผู้หญิงที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงทั่วโลกอยู่ที่ประมาณร้อยละ 23 ในบางด้าน เช่น สาธารณสุข งานสังคมสงเคราะห์และการศึกษาอยู่ที่ร้อยละ 61-67 ส่วนในด้านการบริการทางการเงิน อัตราผู้หญิงที่ทำงานในด้านนี้ก็อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงผู้ชายคือร้อยละ 45 รายงานของ Moody's ยังแสดงให้เห็นว่า ที่สหรัฐ  อัตราผู้บริหารหญิงได้เพิ่มขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ อยู่ที่ร้อยละ 40  ในขณะที่เศรษฐกิจใหญ่ๆ ในยุโรป  เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศสและอังกฤษก็มีอัตราที่คล้ายคลึงกัน คือตั้งแต่ร้อยละ 35-40  แม้แต่ในญี่ปุ่นซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่มีตำแหน่งสูงในบริษัท อัตราผู้บริหารหญิงก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน คือจากร้อยละ 10.4 เมื่อปี 2010 เป็นร้อยละ 14.4 เมื่อปี 2019

แต่อย่างไรก็ตาม รายงานของ Moody's ยังชี้ชัดว่า ความคืบหน้าในการลดช่องว่างทางเพศนั้นไม่ทัดเทียมกับการมีส่วนร่วมของผู้หญิง จากการคำนวณผลิตภาพแรงงาน Moody's ประมาณการว่า ถ้าหากโลกลดช่องว่างระหว่างเพศในด้านแรงงานและการบริหารจัดการ เศรษฐกิจโลกจะได้รับประโยชน์ถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับความเห็นดังกล่าว รายงานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือ FAO ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า การลดช่องว่างระหว่างเพศในภาคการเกษตรและอาหารอาจทำเงินได้เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่เศรษฐกิจโลก ล่าสุด ในรายงานประจำปีครั้งที่ 10 เกี่ยวกับสตรี การประกอบธุรกิจและกฎหมาย ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ธนาคารโลกหรือ WB ได้ระบุว่า การยุติข้อกำหนดและการเลือกฏิบัติที่ขัดขวางบทบาทของสตรีในการทำงานและการทำธุรกิจสตาร์ทอัพอาจช่วยเพิ่มจีดีพีของโลกได้กว่าร้อยละ 20 ในทศวรรษหน้า

ไม่เพียงแต่มีบทบาทที่สำคัญในด้านเศรษฐกิจเท่านั้น หากผู้หญิงยังมีบทบาทที่สำคัญเพิ่มมากขึ้นในการเข้าร่วมกระบวนการทางการเมืองทั้งในระดับชาติและระดับโลก ตลอดจนการส่งเสริมการเจรจาและการธำรงสันติภาพในโลก นาย Jean-Pierre Lacroix รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติที่รับผิดชอบฝ่ายปฏิบัติการรักษาสันติภาพเผยว่า

“การมีผู้หญิงมากขึ้นและการให้อำนาจให้แก่ผู้หญิงมากขึ้นในการปฏิบัติกิจกรรมรักษาสันติภาพเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่สามารถสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนได้ถ้าหากไม่มีส่วนร่วมของผู้หญิง นอกจากนี้ กิจกรรมรักษาสันติภาพต้องสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ความเป็นจริงของพื้นที่ปฏิบัติภารกิจ และที่ชุมชนเหล่านี้ อัตราผู้ชายและผู้หญิงอยู่ที่ 50-50 ดังนั้น เราจึงต้องค้ำประกันความเสมอภาคทางเพศในการปฏิบัติหน้าที่ของตน”

บทบาทของสตรีในโลก - ảnh 2นาย Jean-Pierre Lacroix รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติที่รับผิดชอบฝ่ายปฏิบัติการรักษาสันติภาพ (VNA)

ความท้าทายมากมายเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ

ถึงแม้ว่าจิตสำนึกเกี่ยวกับบทบาทที่สำคัญของสตรีจะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบัน ผู้หญิงยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมายในการเข้าถึงโอกาสและการหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมมากขึ้นในสังคม รายงานของ Moody's เมื่อปีที่แล้วได้แสดงให้เห็นว่า ยิ่งมีระดับการบริหารสูงเท่าใด อัตราผู้หญิงก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น นอกจากนี้ ในหลายด้านที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและถือเป็นแรงผลักดันของเศรษฐกิจโลกในอนาคต เช่น เทคโนโลยี และเศรษฐกิจดิจิทัล อัตราผู้หญิงที่เข้าร่วมและเป็นผู้นำยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผู้หญิงจะพลาดโอกาสในการเพิ่มรายได้ในอนาคต ในสภาวการณ์ที่ความท้าทายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นต่อประเทศและชุมชน ผู้หญิงก็มีโอกาสต่ำกว่าผู้ชาย นาง ลอเรน ฟิลิปส์ รองผู้อำนวยการฝ่ายเปลี่ยนแปลงชนบทและความเสมอภาคทางเพศของ FAO แสดงความเห็นว่า

“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนจน โดยเฉพาะผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ง่ายเหมือนผู้ชาย และผู้หญิงไม่สามารถเข้าถึงแหล่งพลัง ทรัพย์สินและบริการได้มากนัก”

ความท้าทายระดับโลกครั้งใหม่ทำให้ผู้หญิงต้องเข้าร่วมและมีบทบาทมากขึ้นในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นด้านที่ช่องว่างระหว่างเพศยังไม่ลดลง เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ในการกล่าวปราศรัยในโอกาสวันสตรีและเด็กหญิงในวงการวิทยาศาสตร์สากล นาย เดนนิส ฟรานซิส ประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ได้เผยว่า

“ตามรายงานของสถาบันสถิติแห่งองค์การยูเนสโก นักวิจัยทั่วโลกที่เป็นผู้หญิงมีเพียงร้อยละ 33 ซึ่งตัวเลขที่ต่ำอย่างน่ากังวลนี้ก็คล้ายกับช่องว่างทางรายได้ในวงการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์หรือ STEM ซึ่งรายได้ของผู้หญิงต่ำกว่าผู้ชายถึงร้อยละ 33”

เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ดังกล่าว สหประชาชาติได้ออกคำเรียกร้องให้ผลักดันความเสมอภาคทางเพศในด้านวิทยาศาสตร์ โดยระบุว่า การมีส่วนร่วมที่เท่าเทียมกันของผู้หญิงและเด็กหญิงในการค้นคว้าและการเปลี่ยนแปลงใหม่วิทยาศาสตร์เป็นวิธีการเดียวเพื่อรับมือความท้าทายระดับโลกอย่างยั่งยืน โดยก่อนอื่นคือการส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือ SDGs จนถึงปี 2030 ตามระเบียบวาระการประชุมของสหประชาชาติ.

คำติชม