บทบาทของการส่งออก การอุปโภคบริโภคและการลงทุนในการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวในปี 2021

Hong Van- VOV5
Chia sẻ

(VOVWORLD) -รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า อัตราการขยายตัวจีดีพีในปี 2021 จะอยู่ที่ร้อยละ 6.5 เพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้ย้ำหลายครั้งถึงบทบาทของสามเสาหลักได้แก่การส่งออก การอุปโภคบริโภคและการลงทุน โดยในการประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์เมื่อวันที่ 7 มกราคม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้ย้ำอีกครั้งว่า  ต้องพัฒนา 3 ด้านนี้ในขอบเขตที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้เวียดนามสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวในปี 2021

บทบาทของการส่งออก การอุปโภคบริโภคและการลงทุนในการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวในปี 2021 - ảnh 1การประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานในปี 2020 และการปฏิบัติหน้าที่ในปี 2021 ของหน่วยงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์  (Photo: VGP)
 เศรษฐกิจเวียดนามกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19แต่เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง เวียดนามก็ผลักดันมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงและเข้มแข็งมากขึ้น

ส่วนร่วมที่สำคัญในปี 2020

นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ย้ำถึงบทบาทของการส่งออก การอุปโภคบริโภคและการลงทุนในปี 2021 เพราะในปี 2020 ทั้ง3 ด้านนี้ได้มีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยมูลค่าการส่งออกอยู่ที่กว่า 2 แสน 8 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับปี 2019  ช่วยให้เวียดนามเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดในโลกในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  โครงสร้างสินค้าการส่งออกได้รับการปรับปรุง โดยลดการส่งออกวัตถุดิบ ผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์การแปรรูป โดยมีผลิตภัณฑ์ 31 รายการที่มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในนั้น สินค้าส่งออก 9 รายการที่มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่กว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและสินค้าส่งออก 6 รายการมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่กว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตัวเลขได้เปรียบดุลย์การค้าอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติกาลคือเกือบ 1 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันที่มีมูลค่าการค้าเกินดุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม เจิ่นต๊วนแองได้ประเมินว่า

“พวกเราดีใจมากเมื่อเห็นว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามเป็นบวกและได้เปรียบดุลย์การค้าในระดับสูงเป็นประวัติกาล ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจในการค้ำประกันการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน จุดเด่นในกิจกรรมการส่งออกและนำเข้าคือการเข้าถึงและใช้โอกาสจากตลาดต่างๆ โดยเฉพาะตลาดที่ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับเวียดนาม รวมทั้ง ข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP  นี่เป็นปัจจัยเพื่อสร้างโอกาสให้แก่เวียดนามในการขยายตัวและสร้างสมดุลย์การค้าทวิภาคีกับประเทศเหล่านี้”

ในขณะเดียวกัน ศักยภาพของตลาดภายในประเทศก็มีสูงมาก โดยมีประชากรเกือบ 100 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว   รายได้จากการขายปลีกและภาคการบริการในปี 2020 อยู่ที่ประมาณกว่า 5 ล้านล้านด่งหรือคิดเป็นกว่า 2 แสน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับปี 2019 รายได้จากการขายปลีกในปี 2020 คิดเป็นร้อยละ 79 ของยอดรายได้และเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รองลงมาคือรายได้จากภาคการบริการ

ยอดเงินลงทุนในปี 2020 อยู่ที่กว่า 2 ล้านล้านด่งคิดเป็นกว่า 9 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วและคิดเป็นร้อยละ 34.4 ของจีดีพี ซึ่งประกอบด้วย เงินลงทุนภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคที่มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

บทบาทของการส่งออก การอุปโภคบริโภคและการลงทุนในการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวในปี 2021 - ảnh 2รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม เจิ่นต๊วนแอง (Photo:VGP)

ธำรงบทบาทของ 3 เสาหลักเพื่อขยายตัวในปี 2021

ปี 2021 เป็นปีแรกที่ปฏิบัติมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ยากที่จะคาดเดาได้และมีความผันผวนใหม่ ซึ่งกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต้องพยายามปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญในการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่เศรษฐกิจมหภาคเท่านั้นหากยังค้ำประกันงานทำ รายได้ ปฏิบัตินโยบายด้านสวัสดิการสังคมและการลดช่องว่างการพัฒนา ดังนั้น  การลงทุน การอุปโภคบริโภคและการส่งออกต้องได้รับการปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียง  ในการกล่าวปราศรัยสรุปการประชุม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ย้ำว่า

“รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายอัตราการขยายตัวให้อยู่ที่ร้อยละ 6.5 โดยการส่งออก การอุปโภคบริโภคและการลงทุนเป็นพลังขับเคลื่อนหลัก ซึ่งต้องผลักดันการพัฒนา 3 ด้านนี้ในขอบเขตที่ใหญ่ขึ้น ดังนั้น ผมกำชับให้พยายามบรรลุผลงานที่ดีกว่าปี 2020 ปฏิบัติตามแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ”

บนเจนารมณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้กำชับให้ค้ำประกันแหล่งพลังต่างๆเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมในเวลาที่จะถึงตามแนวทางอย่างยั่งยืน ระดมการเข้าร่วมของเศรษฐกิจภาคเอกชน  ใช้โอกาสที่ดีจากข้อตกลงการค้าเสรี ปฏิบัติมาตรการค้ำประกันความสมดุลย์ระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน เชื่อมโยงระหว่างการผลิตกับการจัดสรรผลิตภัณฑ์ ผลักดันการเชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่า  เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตร เป็นต้น

รัฐบาลจะเน้นแก้ไขปัญหาด้านกลไก นโยบาย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ การฝึกอบรมแหล่งบุคลากรให้แก่ประเทศ ซึ่งจะมีส่วนร่วมปฏิบัติความตั้งใจในการสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่พัฒนาและเข้มแข็งในเวลาที่จะถึง.

คำติชม