เลขาธิการใหญ่พรรค เหงียนฟู้จ่อง กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมสรุปผลงานปี 2022 และการปฏิบัติตามข้อสรุปของส่วนกลาง มติของสภาแห่งชาติสมัยที่ 15 เกี่ยวกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปี 2023 (VNA)

นิมิตหมายในการชี้นำเศรษฐกิจของพรรคซึ่งนำโดยเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ได้รับการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านหลักนโยบาย ยุทธศาสตร์และเอกสารอย่างเป็นทางการของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 11, 12 และ 13 ตลอดจนการตัดสินใจนโยบายที่สำคัญอื่นๆ รวมทั้ง มติเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน มติเกี่ยวกับการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศแบบคัดเลือกและมติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์แถวขบวนนักธุรกิจเวียดนามในยุคใหม่

มติสำคัญที่เป็นเสาหลักเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ

เมื่อปี 2017 นับเป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการกลางพรรคได้ออกมติที่ 10 ซึ่งเป็นมติเกี่ยวกับเศรษฐกิจภาคเอกชน  เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนปี 2017 เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม

มติได้ตั้งเป้าหมายหลายประเด็น โดยจนถึงปี 2030 เวียดนามจะมีสถานประกอบการอย่างน้อย 2 ล้านแห่ง และเศรษฐกิจภาคเอกชนมีส่วนร่วมต่อเศรษฐกิจเวียดนามตั้งแต่ร้อยละ 60-65 นี่เป็นนิมิตหมายสำคัญเมื่อเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง กรมการเมืองพรรคและคณะกรรมการกลางพรรคมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านความคิดเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ มติดังกล่าวได้เสนอมาตรการและแนวทางเกี่ยวกับการสร้างบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจที่สะดวก โดยเน้นถึงการปรับปรุงกลไกนโยบายเพื่อดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนและค้ำประกันการดำเนินงานของเศรษฐกิจภาคเอกชนตามกลไกเชิงตลาด ค้ำประกันการปฏิบัติตามสิทธิเสรีภาพในการประกอบธุรกิจและสิทธิการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน นาย เจิ่นชี้หยุง เลขาธิการสมาคมสถานประกอบการโลจิสติกส์เวียดนามเผยว่า

“เมื่อสรุปผลการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในเวลาที่ผ่านมาสามารถเห็นได้ว่า นี่คือผลงานที่น่าประทับใจมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่วงการผู้ประกอบการเราต้องแสดงความนับถือและประทับใจต่อบทบาทการชี้นำ โดยเฉพาะของผู้นำประเทศอย่างท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง”

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมปี 2019 กรมการเมืองพรรคได้ประกาศใช้มติที่ 50 ซึ่งเป็นนโยบายเกี่ยวกับการเปิดแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ปรับปรุงกลไก อีกนโยบาย  เพื่อยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพความร่วมมือลงทุนต่างประเทศจนถึงปี 2030 ให้มีความสมบูรณ์ มติฉบับนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ในการดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอ สร้างนิมิตหมายด้วยการที่เวียดนามเข้าสู่ระยะดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไอแบบคัดเลือกโดยถือคุณภาพ ประสิทธิภาพ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นมาตรฐานของการลงทุน นอกจากนี้ พรรคยังกำหนดเศรษฐกิจที่มีเงินลงทุนจากต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของเศรษฐกิจเวียดนาม ซึ่งได้รับการส่งเสริม อำนวยความสะดวกเพื่อพัฒนาในระยะยาว ร่วมมือและแข่งขันอย่างโปร่งใสกับเศรษฐกิจภาคอื่นๆ นี่คือพื้นฐานเพื่อให้กลุ่มบริษัทในด้านเทคโนโลยีระดับโลกหลายแห่งมาลงทุนในเวียดนาม นาย จูอกลี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือ WEF ได้ประเมินว่า

“เวียดนามกำลังยืนยันถึงชื่อเสียงต่อผู้นำของเศรษฐกิจสมาชิกของฟอรั่มเศรษฐกิจโลก สถานประกอบการและกลุ่มบริษัทระดับโลกกำลังแสวงหาสถานที่ลงทุนที่มั่นคง คล่องตัวและมีโอกาสในการขยายการลงทุน”

เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นอิสระและพึ่งตนเอง ในสมัยแรกที่ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของพรรค เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมปี 2011 ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ได้ลงนามมติที่ 09 เกี่ยวกับการสร้างสรรค์และส่งเสริมบทบาทของแถวขบวนนักธุรกิจเวียดนามในยุคแห่งการผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและเมื่อปีที่แล้ว กรมการเมืองพรรคได้ออกมติที่ 41 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมปี 2023 เกี่ยวกับการสร้างสรรค์และส่งเสริมบทบาทของแถวขบวนนักธุรกิจเวียดนามในยุคใหม่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกมีการยืนยันบทบาทของแถวขบวนนักธุรกิจที่เป็นหนึ่งในกองกำลังหลักที่มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก สร้างสรรค์และพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นอิสระและพึ่งตนเอง นาย ฝ่ามเติ๊นกง ประธานสหภาพการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือ VCCI ได้แสดงความเห็นว่า

“มติที่ 41 ได้สร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นให้แก่ชุมชนสถานประกอบการและนักธุรกิจเวียดนามในการพัฒนาและมีส่วนร่วมมากขึ้น ชุมชนนักธุรกิจและผู้ประกอบการกำลังมีโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์แถวขบวนนักธุรกิจเวียดนามที่แข็งแกร่ง”

นาย ฝ่ามเติ๊นกง ประธานสหภาพการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือ VCCI (VGP)

ผลงานที่น่าประทับใจ

ภายใต้การนำของพรรคซึ่งนำโดยเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ในตลอด 13 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ของเวียดนามได้เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า ตั้งแต่ประมาณ 1 แสน 4 พัน 6 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2010 ขึ้นเป็นกว่า 4 แสน 3 หมื่นพันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2023 รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรยังเพิ่มขึ้นกว่า 3.6 เท่า จาก 1,168 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นเป็น 4,284.5 ดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อปี 2020 เมื่อกระแสเงินทุน FDI ทั่วโลกลดลงร้อยละ 35 แต่เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางในการดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศด้วยเงินทุนจดทะเบียนใหม่บรรลุประมาณ 1 หมื่น 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เวียดนามถูกระบุในรายชื่อ 20 ประเทศนำหน้าของโลกเกี่ยวกับการดึงดูดเงินทุน FDI ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การที่เวียดนามเป็นสมาชิกของข้อตกลงการค้าทวิภาคีและพหุภาคีสำคัญหลายฉบับได้สร้างพื้นฐานทางกฎหมายที่มั่นคงเพื่อให้เวียดนามผสมผสานเข้ากับห่วงโซ่คุณค่าระดับโลกอย่างกว้างลึก

เศรษฐกิจภาคเอกชนมีการพัฒนาที่น่าประทับใจ โดยมีส่วนร่วมเกือบร้อยละ 45 ต่อ GDP ของเวียดนาม สนับสนุน 1 ใน 3 ให้แก่รายรับเข้างบประมาณแผ่นดินและสร้างงานทำให้แก่แรงงานทั่วประเทศร้อยละ 85

ปัจจุบัน เวียดนามเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 34 ของโลก ตามรายงานการประเมินศักยภาพเศรษฐกิจโลกประจำปีครั้งที่ 34 ซึ่งเผยแพร่โดยศูนย์ให้คำปรึกษาหรือ CEBR ของอังกฤษได้คาดว่า ในอีกประมาณ 10 ปีต่อจากนี้ เวียดนามจะเลื่อนขึ้นมาเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 24 ของโลก ความสำเร็จทางเศรษฐกิจที่เวียดนามได้บรรลุในตลอดกว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมาเป็นผลจากความสำเร็จต่าง ๆ  แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการชี้นำที่ถูกต้องของคณะกรรมการกลางพรรค กรมการเมืองพรรคและคณะเลขาธิการกลางพรรค รวมทั้งบทบาทของเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง.