เมื่อปลายปี 2011 นาย Trương Châu Hữu Danh พร้อมกลุ่ม “Báo sạch” ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก14 ปี 6 เดือนด้วยโทษฐาน ฉกฉวยสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยเพื่อละเมิดผลประโยชน์ของรัฐ สิทธิประโยชน์ที่ชอบธรรมขององค์กรและบุคคล โดยเมื่อวันที่24มีนาคมปี2022สำนักงานอัยการนครโฮจิมินห์ได้อนุมัติการดำเนินคดีผู้ต้องหาและจับกุมตัวนาง Nguyen Phuong Hang ผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัทหุ้นส่วน Dai Namในจังหวัดบิ่งเยืองในข้อหา "ฉกฉวยสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยเพื่อละเมิดผลประโชยน์ของรัฐ สิทธิประโยชน์ที่ชอบธรรมขององค์กรและบุคคล " และล่าสุดนี้คือเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ประธานเครือบริษัท FLC นาย Trinh Van Quyet ก็ถูกควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีในข้อหา "แทรกแซงตลาดหุ้น" "ปกปิดข้อมูลในการซื้อขายหลักทรัพย์" เมื่อวันที่ 10 มกราคม2022 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อนักลงทุนและส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นเวียดนาม
เกี่ยวกับ 3 กรณีดังกล่าว ในการประชุมสรุป 7 ปีการปฏิบัติระเบียบการประสานงานระหว่างคณะกรรมการกิจการภายในส่วนกลาง คณะกรรมการพรรคแห่งกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไป คณะกรรมการฝ่ายบุคคลของพรรคแห่งศาลประชาชนสูงสุดและคณะกรรมการฝ่ายบุคคลของพรรคแห่งสำนักงานอัยการประชาชนสูงสุดที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ณ กรุงฮานอย นั้น นาย หวอวันเถือง รองหัวหน้าคณะกรรมการชี้นำส่วนกลางว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ได้ขอให้สำนักงานที่มีอำนาจหน้าที่ต้องจัดการกับการทุจริตอย่างเข้มงวดเด็ดขาดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละเมิดที่สร้างความท้าทายต่อแนวทางการชี้นำของพรรค กฎหมายของรัฐรวมทั้งประชามติ “สามกรณีที่เราจัดการเมื่อไม่นานนี้ได้ส่งผลดีต่อกระแสประชามติทางสังคม ซึ่งการดำเนินคดีเหล่านี้ถือว่าเข้มงวดและทันเวลา นอกจากนี้ เราก็ยังคงค้ำประกันให้ปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ถูกผลกระทบและยังคงดำเนินการตามปกติ”.
โดยในคดีของ Trương Châu Hữu Danh ข้อความพร้อมรูปภาพประกอบที่โพสต์บนแฟนเพจ “Báo sạch” และกลุ่ม “Làm báo sạch” นั้นเป็นการทำผิดกฎหมาย สร้างเวทีการแสดงความเห็นในเชิงลบที่สะท้อนเนื้อหาที่บิดเบือน ต่อต้านและบ่อนทำลายสิทธิและผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของรัฐและระบบการปกครองท้องถิ่น สำหรับกรณีของ Nguyen Phuong Hang ได้กระทำผิดกฎหมายว่าด้วยเสรีภาพและประชาธิปไตยด้วยการละเมิดสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของบุคคลจำนวนมาก ส่วนกรณีของ Trinh Van Quyet หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำการสอบสวนอย่างต่อเนื่องด้วยจิตใจแห่งการเคารพกฎหมายและเพื่อความโปร่งใสของตลาดหลักทรัพย์ นาย ตริ๋งซวนอาน สมาชิกของคณะกรรมาธิการด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงสภาแห่งชาติ กล่าวว่า “จากกรณีต่างๆดังกล่าวได้สะท้อนบทบทการนำที่ยิ่งใหญ่ของพรรค มีความคล่องตัวแต่ก็เข้มงวดและเคร่งครัดมากโดยไม่มีการยกเว้นหรือมีการลงโทษที่ไม่สาสมต่อผู้กระทำผิดที่อยู่ในตำแหน่งสูงหรือมีสถานะสำคัญในระบบเศรษฐกิจ เพราะหลักการอันดับแรกคือต้องเคารพกฎหมาย”
ส่วนนักกฎหมายเหงวียนวันเจี๊ยน คณะนักกฎหมายกรุงฮานอยได้แสดงความเห็นว่า สังคมแห่งอารยะเป็นสังคมที่ประชาชนทุกคนอาศัยและทำงานตามกฎหมายและทุกการเคลื่อนไหวทางสังคมต้องเคารพกฎหมาย ซึ่งแนวทางของพรรคและรัฐได้กำหนดการสร้างสรรค์นิติรัฐและสังคมที่มีอารยะธรรมอย่างชัดเจน ดังนั้น เมื่อเกิดการฝ่าฝืนกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยขึ้นอยู่กับลักษณะและระดับความผิดเพื่อให้มีการจัดการที่เหมาะสม เป็นธรรมและเข้มงวด
ทั้งนี้การดำเนินคดีและลงโทษต่อกรณีที่เป็นตัวอย่างข้างต้นนั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าเวียดนามกำลังบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดรัดกุมและเข้มงวดเพื่อเอื้อให้แก่การปฏิบัติกระบวนการปรับปรุงระบบกฎหมายของนิติรัฐสังคมนิยมให้สมบูรณ์ต่อไป./.