รายงานเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติระบุว่า 1 ใน 3 ของเหยื่อการค้ามนุษย์คือเด็ก ส่วนตามรายงานของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะเวียดนาม ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ ได้ตรวจพบและสืบสวน 50 คดี ช่วยเหลือเหยื่อ 126 คน ส่วนสำหรับกรณีการค้าเด็ก มี 48 คดี ช่วยเหลือเหยื่อ 121 คน ซึ่งการปกป้องสิทธิของเหยื่อการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะเด็กเป็นหนึ่งในเนื้อหาสำคัญของงานด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม
การจัดทำและปฏิบัตินโยบายต่างๆอย่างพร้อมเพรียง
พรรคและรัฐเวียดนามเน้นให้ความสนใจและมุ่งมั่นค้ำประกันสิทธิของเหยื่อการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็กตามหลักการ “ถือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเป็นศูนย์กลาง” โดยระบบกฎหมายและนโยบายต่างๆสะท้อนให้เห็นถึงทัศนะที่เสนอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐ ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์เพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
เมื่อปี 2011 กฎหมายการป้องกันและปรามปรามการค้ามนุษย์ได้เริ่มมีผลบังคับใช้ สร้างพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่งานด้านนี้ ต่อมา มติที่ 09 ปี2013 และมติที่ 20 ปี 2021ของรัฐบาลได้สร้างกรอบทางกฎหมายให้แก่การช่วยเหลือเหยื่อในระดับสูงสุด เช่น ให้การช่วยเหลือสิ่งของที่จำเป็น ค่าเดินทาง บริการสาธารณสุข การดูแลสุขภาพจิต การช่วยเหลือด้านกฎหมาย วัฒนธรรม การฝึกอาชีพ เงินอุดหนุนเฉพาะกิจและการช่วยเหลือในการกู้เงิน โดยรัฐบาลได้ประกาศใช้แผนการปฏิบัติระดับชาติครั้งที่ 4 เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตามระยะ 5 ปี ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2005 และล่าสุดนี้คือร่างกฎหมายการป้องกันและปรามปราบการค้ามนุษย์ฉบับแก้ไขได้ถูกหยิบยกมาอภิปรายในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 7 สมัยที่ 15 นาง Park Mihyung หัวหน้าคณะผู้แทนองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือ IOM ประจำเวีดยนามได้เผยว่า
“ความพยายามของเวียดนามในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ควรได้รับการรับทราบ โดยเวียดนามได้ปรับปรุงกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฉบับปี 2011ให้สมบูรณ์ ซึ่งช่วยสร้างกรอบทางกฎหมายให้แก่การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
นอกจากระบบกฎหมาย เวียดนามยังผลักดันกิจกรรมต่างๆอย่างเข้มแข็ง โดยนาง ห่าถิงา ประธานสหพันธ์สตรีเวียดนามได้เผยว่า การเข้าร่วมการแก้ไขกรณีล่วงละเมิด ใช้ความรุนแรงและการค้าเด็กและการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมสืบสวนและดำเนินคดีต่างๆอย่างเคร่งครัด มีการวิจัยปฏิบัติและขยายผลรูปแบบที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยให้แก่สตรีและเด็ก เช่น รูปแบบ “บ้านที่สงบสุข” ของสหพันธ์สตรีเวียดนามส่วนกลาง โดยตั้งแต่ได้รับการจัดตั้งเมื่อปี 2007 จนถึงปัจจุบัน รูปแบบนี้ได้ช่วยเหลือเหยื่อ 463 คน โดยเป็นเด็ก 159 คน
“สหพันธ์สตรีเวียดนามเดินหน้าผลักดันการประสานงานกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท้องถิ่นและองค์กรระหว่างประเทศเพื่อยกระดับประสิทธิภาพงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์เพื่อยกระดับความรู้ให้แก่สมาชิกสหพันธ์ฯและประชาชนเกี่ยวกับการใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คอย่างปลอดภัยเพื่อมีส่วนร่วมลดความเสี่ยงจากปัญหาการค้ามนุษย์ การค้าเด็กและอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ ช่วยเหลือเหยื่อร้อยละ 80 ในการปรับตัวเข้ากับสังคมและเข้าถึงบริการทางสังคม”
ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
นอกจากความพยายามจากหน่วยงานภายในประเทศ รัฐบาลเวียดนามยังส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยเวียดนามได้ลงนามข้อตกลงช่วยเหลือทางกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม รวมถึงการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์กับประเทศต่างๆ กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆได้เป็นฝ่ายรุกในการให้คำปรึกษาและปฏิบัติข้อตกลงความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีในด้านนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนสำหรับข้อเสนอของประชาคมโลกก็ได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเนื้อหาต่างๆถูกระบุในโครงการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระยะปี 2021-2025 และวิสัยทัศน์จนถึงปี 2030 โดยเฉพาะ เมื่อเร็วๆนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามได้ขยายความร่วมมือกับประเทศต่างๆในการสืบสวนและช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ส่วนสำหรับงานด้านการจัดทำสถิติเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะก็ได้รับการปรับปรุงตามมาตรฐานโลกและสอดคล้องกับสถานการณ์ภายในประเทศ
รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในโลกประจำปี2024 ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเมื่อเร็วๆนี้ได้ประเมินในเชิงบวกผลงานของเวียดนามในด้านนี้อย่างมีภาวะวิสัย โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ปี2011 การเพิ่มการสืบสวนและดำเนินคดีกรณีการค้ามนุษย์ เวียดนามยังพยายามปฏิบัติเป้าหมายของข้อตกลงเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปลอดภัยและเป็นระเบียบของสหประชาชาติเพื่อมีส่วนร่วมป้องกันความเสี่ยงจากปัญหานี้ในกิจกรรมโยกย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ความมุ่งมั่นป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นจากคำมั่นของเวียดนามในการปฏิบัติสนธิสัญญาระหว่างประเทศเท่านั้น หากยังสะท้อนความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการจัดทำระบบกฎหมายที่สมบูรณ์เพื่อปกป้องกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็ก.