ค้ำประกันด้านสุขภาพความปลอดภัยของประชาชน การเชิดชูสิทธิมนุษยชน

Thu Hoa
Chia sẻ
(VOVWORLD) -การดูแลด้านสาธารณสุขและการค้ำประกันความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในสภาวการณ์โรคระบาดที่ร้ายแรงคือหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในเป้าหมายใหญ่ว่าด้วยการพัฒนาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติ ซึ่งเวียดนามได้มีความพยายามร่วมกับประชาคมโลกในการปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19อย่างมีประสิทธิผลผ่านระบบสาธารณสุขป้องกันที่มีความคลอบคลุมและสมบูรณ์เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้เข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และนี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับการเชิดชูสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม
ค้ำประกันด้านสุขภาพความปลอดภัยของประชาชน การเชิดชูสิทธิมนุษยชน - ảnh 1แพทย์โรงพยาบาลเจอะไหร่ใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อเพื่อไปรักษาผู้ติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2

วันแพทย์เวียดนาม27กุมภาพันธ์ปีนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่อาจลืมและจะถูกพูดถึงในอีกหลายปีต่อไปไม่เพียงแต่ในหน่วยงานสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่การแพทย์เท่านั้นหากรวมถึงในหมู่ประชาชนเวียดนามอีกด้วย โดยในสภาวการณ์ที่ภารกิจการป้องกันการระบาดของโควิด-19กำลังเป็นไปอย่างเร่งด่วนนั้น หน่วยงานสาธารณสุขเวียดนามไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงจิตใจแห่งความรับผิดชอบสูงเท่านั้นหากยังสามารถยืนยันทักษะความสามารถและความพร้อมระดับสูงในการรับมือและควบคุมปัญหาด้านสาธารณสุขที่เร่งด่วน

เวียดนามได้รับการประเมินว่า เป็นหนึ่งในจำนวนไม่กี่ประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่สมบูรณ์ มีสถานีอนามัยประจำหมู่บ้าน ซึ่งเป็นรูปแบบที่ประเทศต่างๆให้ความสนใจปฏิบัติตาม ปัจจุบัน เวียดนามมีสถานีอนามัยระดับอำเภอ เขต และอำเภอเมืองกว่า 700 แห่ง มีสถานีอนามัยระดับตำบลกว่า 11,100 แห่ง ซึ่งสถานีอนามัยกว่าร้อยละ 60 ได้มาตรฐานระดับประเทศระยะปี 2010-2020 ทั่วประเทศมีโรงพยาบาลกว่า 1,400 แห่ง รวม 180,000 เตียง ในแต่ละปี สามารถรักษาผู้ป่วยนอก 120,000 คนและผู้ป่วยในกว่า 10 ล้านคน ทำการผ่าตัดให้แก่ผู้ป่วยหลายล้านคน โดยเป็นการผ่าตัดใหญ่ 2 ล้านครั้ง

เวียดนามสามารถควบคุมปัญหาที่เร่งด่วนด้านสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ

ในช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานสาธารณสุขเวียดนามกำลังระดมกำลังทุกภาคส่วนเพื่อภารกิจการป้งกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19ด้วยเจตนารมณ์ “เหมือนการต่อต้านศัตรู”ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศ ซึ่งการเข้าร่วมของทั้งระบบการเมืองโดยเฉพาะหน่วยงานสาธารณสุขเวียดนามในเวลาที่ผ่านมาก็ได้เกิดประสิทธิผลเบื้องต้น สามารถจำกัดการระบาดในวงกว้างได้ในสภาวการณ์ที่เวียดนามมีแนวชายแดนติดกับประเทศจีนเป็นระยะยาวและมีการค้าขายกับฝ่ายจีนในทุกสาขาซึ่งถือเป็นช่องทางที่เสี่ยงมากสำหรับการระบาด แต่ด้วยจิตใจแห่งความรับผิดชอบสูงของแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขที่ทำงานบนเจตนารมณ์ถือความปลอดภัย สุขภาพและชีวิตของประชาชนเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดและเร่งด่วนที่สุด บวกกับทักษะความสามารถของหน่วยงานการแพทย์ เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในเบื้องแรกของกระบวนการป้องกันและจำกัดการระบาดของโควิด-19  ในรายงานเมื่อวันที่13กุมภาพันธ์ องค์การอนามัยโลก(WHO)ได้รับทราบและชื่นชมผลงานในการควบคุมการระบาดของโกวิด-19ของเวียดนาม โดยรัฐบาลเวียดนามได้เปิดดำเนินงานระบบการรับมือในระยะแรกของการระบาด เพิ่มการเฝ้าติดตามเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อ ผลักดันการตรวจสอบแยกตัวผู้ต้องสงสัยตามศูนย์สาธารณสุขท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดควบคู่กับการผลักดันการประชาสัมพันธ์และขยายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ซึ่งองค์การอนามัยโลกเห็นว่า ทักษะวิชาชีพทางการแพทย์ของเวียดนามในการรับมือปัญหาด้านสาธารณสุขชุมชนฉุกเฉินรวมถึงการรับมือกับปัญหาการระบาดของโรคอุบัติใหม่ได้รับการยกระดับเป็นที่น่าชื่นชม

ระบบสาธารณสุขเวียดนามพร้อมปกป้องประชาชนจากภัยโรคอุบัติใหม่

องค์การอนามัยโลกได้ประเมินว่า ทักษะความสามารถแห่งชาติของเวียดนามในการรับมือและควบคุมปัญหาด้านสาธารณสุขฉุกเฉินนั้นได้ผ่านการทดสอบแล้วจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในเวียดนาม โดยในกระบวนการปฏิบัติหน้าที่การป้องกันและควบคุมปัญหาโรคระบาด เวียดนามสามารถสร้างสรรค์ทักษะในการเฝ้าติดตาม ตรวจหาและระบุระดับความรุนแรงของโลกรวมทั้งรับมือแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิผลและรวดเร็ว โดยเฉพาะทักษะวิชาชีพในการรับมือและป้องกันโรคร้ายแรงและโรคอุบัติใหม่ได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น เป็นฝ่ายรุกในการเตรียมพร้อมและการปฏิบัติกิจกรรมการตรวจหา แยกตัวและรักษาให้แก่ผู้ติดเชื้อมีประสิทธิภาพซึ่งทำให้เวียดนามสามารถขจัดและควบคุมโรคที่ร้ายแรงต่างๆได้ดีเช่นโรคฝีดาษ โรคโปลิโอ โรคบาดทะยักในทารกแรกเกิด เป็นต้น ในขณะที่โรคระบาดอื่นๆมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเป็นร้อยเท่าเมื่อเทียบกับช่วงที่ยังไม่มีโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคทั่วไปเช่นโรคคอตีบ ไอกรน โรคหัด เป็นต้น ส่วนโรคที่อันตรายอื่นๆเช่น ไข้เลือดออก ไข้ไทฟอยด์ วัณโรคและอหิวาตกโรค ถูกควบคุมไม่ระบาดเป็นวงกว้างและจำกัดอัตราผู้เสียชีวิตให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งนอกจากประสบความสำเร็จในการควบคุมและขจัดโรคระบาดต่างๆดังกล่าว เวียดนามยังเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆที่สามารถควบคุมโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือซาร์ส ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1-H1N1 รวมทั้งสามารถป้องกันโรคที่ร้ายแรงใหม่ต่างๆ เช่น ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 โรคอีโบลา  หรือไวรัสเมอร์ส-โควี ไม่ให้มีการการแพร่ระบาดสู่เวียดนาม

จากผลงานในการป้องกันและระดับทักษะในการเฝ้าติดตามและตรวจหาเชื้อของโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่ทุกชนิด เวียดนามได้เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศได้รับการรับรองว่าสามารถวิจัยและผลิตวัคซีนได้เอง เช่นสามารถผลิตวัคซีนไข้หวัด3ชนิด สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการตรวจหาและคัดกรอง การวินิจฉัยโรคและต้นเหตุของการระบาดโรคติดต่อต่างๆเช่น ไข้เลือดออก  โรคหัด โรคมือเท้าปาก ได้อย่างรวดเร็วแม่นยำซึ่งช่วยสนับสนุนในการควบคุมทางการแพทย์ไม่ให้เกิดการระบาดในวงกว้างเหมือนที่ผ่านมา และผลสำเร็จล่าสุดนี้คือเมื่อวันที่7กุมภาพันธ์เวียดนามได้ประกาศสามารถเพาะเชื้อและเเยกเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งจะเป็นพื้นฐานให้แก่การวิจัยวัคซีนป้องกันโรคในอนาคต

ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การดูแลสุขภาพของประชาชนคือหน้าที่อันรุ่งโรจน์ของหน่วยงานสาธารณสุขโดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่โรคโควิด-19กำลังระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรงในหลายประเทศ ซึ่งบรรดาแพทย์เวียดนามได้มีความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อรับมือทุกสถานการณ์ ฝ่าฟันความยากลำบากด้วยจิตใจที่เข้มแข็งเพื่อชีวิตของประชาชนและพวกเขาคือผู้ที่กำลังมีส่วนร่วมโดยตรงต่อการผลักดันการปฏิบัติและการเชิดชูสิทธิมนุษยชนในเวียดนามอย่างมีประสิทธิภาพ./.


คำติชม