ปี 2017 คือปีที่สร้างนิมิตรหมายสำคัญให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอินเดีย โดยทั้งสองประเทศได้รำลึกครบรอบ 45ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ครบรอบ10ปีการยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ และเป็นปีแรกที่ทั้งสองประเทศปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านหลังการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนาย นาเรนดรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียเมื่อเดือนกันยายนปี 2016 ซึ่งเพื่อสานต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีงามนี้ การเยือนอินเดียครั้งนี้ของท่าน เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านให้พัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพต่อไป
ความสัมพันธ์เวียดนาม-อินเดีย จากพื้นฐานที่มั่นคงถึงหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้น
เวียดนามและอินเดียมีความสัมพันธ์กันมาช้านานหลายพันปี โดยเริ่มจากการแลกเปลี่ยนการค้า วัฒนธรรมและแนวคิดทางปรัชญา ต่อมา ประธานโฮจิมินห์และนายกรัฐมนตรี Jawaharlal Nehru ได้ วางรากฐานการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพในระยะใหม่อย่างต่อเนื่องจนนำไปสู่การสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และได้รับการยกระดับให้เป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน
ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกกำลังต้องเผชิญทั้งความท้าทายและโอกาสต่างๆ ทำให้ทั้งสองประเทศต้องกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือให้แน่นแฟ้นมากขึ้น โดยแนวทางการต่างประเทศของเวียดนามที่ได้รับการอนุมัติในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 เมื่อเดือนมกราคมปี 2016 ระบุว่า ต้องกระชับความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนต่างๆให้พัฒนาเข้าสู่ส่วนลึกและจริงจัง สอดคล้องกับนโยบาย “มุ่งสู่ตะวันออก”และ“นโยบายปฏิบัติการมุ่งสู่ตะวันออก”ของอินเดียที่ถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในภูมิภาค ซึ่งความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านได้สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีและช่วยสร้างกรอบความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างสองประเทศ นาย กว่านยวีเคือง รองประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้เผยว่า“เวียดนามคือเศรษฐกิจที่สำคัญในนโยายมุ่งสู่ตะวันออกของอินเดีย ซึ่งความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างสองประเทศก็ได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง ปัจจุบัน อินเดียคือหนึ่งใน 10 หุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สำคัญของเวียดนาม ส่วนมูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่อาเซียนและอินเดียได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี”
สำหรับความสัมพันธ์ร่วมมือด้านความมั่นคงและกลาโหมระหว่างสองประเทศก็ยังคงพัฒนาอย่างดีงาม ส่วนความร่วมมือในด้านอื่นๆ เช่น การเงิน สินเชื่อ ปิโตรเลี่ยม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างบรรลุความคืบหน้า ความร่วมมือด้านการศึกษา วัฒนธรรมและการกีฬา รวมถึงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชนได้รับการส่งเสริม นาย เจืองมิงต๊วน ประธานสมาคมเวียดนาม – อินเดียได้ยืนยันว่า“ในด้านการทูตประชาชน ทั้งสองฝ่ายได้จัดงานมหกรรมมิตรภาพประชาชน รวม 8 ครั้ง โดยได้สร้างนิมิตรหมายพิเศษและช่วยให้ประชาชนทั้งสองประเทศมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม จิตวิญญาณและผลักดันการเชื่อมโยงกันมากขึ้น”
ความสัมพันธ์มิตรภาพและความสามัคคีระหว่างสองประชาชาตินับวันพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในด้านกว้างและส่วนลึก ทั้งสองฝ่ายได้กำหนดเป้าหมายร่วมคือความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของแต่ละประเทศ มีส่วนร่วมต่อสันติภาพและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก เวียดนามและอินเดียจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิด มีความเข้าใจ ความไว้วางใจและสนับสนุนกันในปัญหาต่างๆในภูมิภาคและโลก รวมถึงในฟอรั่มพหุภาคี โดยเฉพาะความร่วมมือในกรอบของอาเซียน
เวียดนามมีบทบาทที่เข้มแข็งในฐานะเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอินเดีย
การที่อินเดียเชิญผู้นำของ 10 ประเทศอาเซียนเข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 69ปีวันสาธารณรัฐอินเดียคือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถานะและบทบาทที่สำคัญของอาเซียนในนโยบายการต่างประเทศของอินเดียและสะท้อนความปรารถนาของอินเดียเกี่ยวกับการผลักดันกลุ่มอาเซียนที่สามัคคีและมีความสัมพันธ์ที่เป็นเอกภาพ
เวียดนามให้ความสำคัญต่อ“นโยบายปฏิบัติการมุ่งสู่ตะวันออก”ของอินเดีย พร้อมทั้งยืนยันว่า ในฐานะเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอินเดีย เวียดนามจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างอาเซียนกับอินเดีย ซึ่งการเยือนอินเดียของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกไม่เพียงแต่ช่วยกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับอินเดียให้พัฒนาตามส่วนลึกเท่านั้น หากยังมีส่วนช่วยผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอินเดียอีกด้วย.