ความท้าทายด้านการทูตกำลังรอว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์

Hồng Vân/VOV5
Chia sẻ

(VOVworld) วันที่ 20 มกราคม ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง เป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ ซึ่งก็หมายความว่า เขาจะต้องรับมือความท้าทายต่างๆด้านการเมืองและเศรษฐกิจ รวมทั้งการแก้ไขความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศเพื่อนำผลประโยชสูงสุดมาสู่สหรัฐ

(VOVworld) วันที่ 20 มกราคม ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง เป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ ซึ่งก็หมายความว่า เขาจะต้องรับมือความท้าทายต่างๆด้านการเมืองและเศรษฐกิจ รวมทั้งการแก้ไขความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศเพื่อนำผลประโยชสูงสุดมาสู่สหรัฐ

ความท้าทายด้านการทูตกำลังรอว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ - ảnh 1
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ (AFP)

ความท้าทายด้านการต่างประเทศที่บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่าจะสร้างอุปสรรค์ต่อประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐคือการแก้ไขความสัมพันธ์กับรัสเซีย จีน สหภาพยุโรป ปัญหานิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ซีเรียและปัญหาการค้าเสรี
แก้ไขความสัมพันธ์กับรัสเซีย จีนและอียู
ความสัมพันธ์กับรัสเซียคือหนึ่งในปัญหาที่จะทำให้นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ต้อครุ่นคิด เพราะความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเต็มไปด้วยความตึงเครียดนับตั้งแต่รัสเซียผนวกแหลมไครเมียร์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของตนเมื่อปี 2014 และสหรัฐกล่าวหารัสเซียว่าได้สนับสนุนกองกำลังที่เรียกร้องการแยกตัวเป็นอิสระในภาคตะวันออกยูเครน นับตั้งแต่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความประสงค์หลายครั้งที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับรัสเซียกลับมามีความอบอุ่น โดยได้เลือกนาย Rex Tillerson ประธานและผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัทปิโตรเลี่ยมแห่งชาติของสหรัฐ ExxonMobil ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัสเซียให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจเสริมสร้างความสัมพันธ์กับรัสเซียของทางการของนาย โดนัลด์ ทรัมป์
ในสภาวการณ์ที่ทางการของประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า เพิ่งประกาศมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดต่อรัสเซียเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงกับกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ  ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กลับประกาศในแนวทางที่จะเปิดโอกาสการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ถ้าหากรัสเซียสนับสนุนสหรัฐในสงครามต่อต้านผู้ก่อการร้ายและเป้าหมายสำคัญอื่นๆ แต่อย่างไรก็ดี นาย Konstantin Kosachev ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศแห่งวุฒิสภารัสเซียได้แสดงความเห็นว่า รัสเซียไม่ควรรีบร้อน และต้องระมัดระวังต่อข้อเสนอของนาย โดนัลด์ ทรัมป์
สำหรับประเทศจีน นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆด้านเศรษฐกิจ การค้าและภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต ในด้านเศรษฐกิจ นาย ทรัมป์ เคยตำหนิจีนเนื่องจากทำให้บริษัทของสหรัฐประสบอุปสรรค์ในการแข่งขันและเก็บภาษีในระดับสูงสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากสหรัฐและได้ออกตำหนิเตือนว่า จะเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 45 ต่อสินค้าของจีนเช่นกัน แต่สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ตามความเห็นของนาย Anatol Lieven ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย Georgetown และสมาชิกของโครงการ New America  นาย โดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่มีทางเลือกใดนอกจากต้องพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการค้าแบบใหม่กับจีน ปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของผู้ใช้แรงงานและบริษัทต่างๆของสหรัฐ ในสภาวการณ์ที่การพัฒนาของเศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัว เรื่องนี้จะประสบอุปสรรค์มากขึ้นและทางการชุดใหม่ต้องยอมรับการประนีประนอมในบางข้อ ในด้านการเมือง การที่นาย โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำไต้หวัน ประเทศจีน นับตั้งแต่ปี 1979 ก็ได้ถูกปักกิ่งคัดค้าน และนาย ทรัมป์ ยังแสดงความสงสัยว่า จีนยังไม่ร่วมมือกับสหรัฐในบางปัญหา เช่นการเงิน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีและความตึงเครียดในทะเลตะวันออก
ส่วนความสัมพันธ์กับอียูก็ถูกคาดการณ์ว่า จะไม่เป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ โดยก่อนพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีไม่กี่วัน นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ถูกตำหนิอย่างรุนแรงเมื่อมีการวิเคราะห์ว่า นาโต้เป็นองค์กรที่ล้าสมัยไปแล้ว และต่อจากอังกฤษ จะมีหลายประเทศถอนตัวออกจากอียู ซึ่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนี แองเกลา แมร์เคิล ได้ยืนยันว่า ยุโรปตัดสินใจชะตากรรมของตน และเธอจะพยายามผลักดันเศรษฐกิจและต่อต้านลัทธิก่อการร้ายในอียู ส่วนนาง เฟเดอร์ริกา โมกรีนี  ตัวแทนระดับสูงดูแลนโยบายด้านความมั่นคงและการต่างประเทศของอียูก็ได้ปฏิเสธคำวิเคราะห์ของนาย ทรัมป์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ภายในอียู
ปัญหาซีเรีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีและข้อตกลงความร่วมมือฉบับต่างๆ
เมื่อนาย โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นผู้นำทำเนียบขาว การปะทะในซีเรียก็เข้าสู่ปีที่ 6 นาย ทรัมป์ เคยกล่าวถึงความสามารถที่จะลดความช่วยเหลือให้แก่กลุ่มฝ่ายค้านในซีเรียเพื่อเน้นทำลายกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือไอเอส นอกจากนั้น ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐยังต้องมีการตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติต่อทางการของประธานาธิบดี บาซาร์ อัลอัสซาด บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้แสดงความเห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงที่นาย ทรัมป์ จะธำรงบทบาททางทหารของสหรัฐในซีเรียเหมือนในสมัยของนาย บารัค โอบาม่า แต่นาย ทรัมป์อาจจะแทรกแซงกระบวนการปฏิรูปซีเรียอย่างไม่เต็มใจ นอกจากนั้น นาย ทรัมป์ ต้องแก้ปัญหาความกังวลจากการทดลองยิงขีปนาวุธของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีในสภาวการณ์ที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้แสดงความเห็นว่า นี่ไม่ใช่ปัญหาที่นาย ทรัมป์ มีความเข้าใจเป็นอย่างดี
ภายใต้คำขวัญ “เพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐเป็นหลัก” นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสวงหาวิธีการถอนตัวออกจากข้อตกลงระดับภูมิภาคและโลกที่สหรัฐได้ให้คำมั่น โดยนับตั้งแต่เปิดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นาย ทรัมป์ ได้ประกาศหลายครั้งว่า คัดค้านข้อตกลงการค้าเสรีเพราะทำให้ชาวอเมริกันตกงาน ซึ่งในขณะที่นาย ทรัมป์ ยืนยันว่า สหรัฐจะถอนตัวออกจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพี นาย Wildbur Ross ผู้ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าได้ยืนยันว่า ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือหรือ NAFTA ยังเป็นหนึ่งในเนื้อหาที่รัฐบาลชุดใหม่จะให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการพิจารณา แต่หน้าที่นี้ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ
ทั้งนี้ นาย โดนัลด์ ทรัมป จะประสบความสำเร็จในการแก้ไขความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศในช่วงปฏิบัติหน้าที่วาระ 4 ปีหรือไม่นั้นยังไม่อาจจทราบได้ แต่ที่ชัดเจนก็คือ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้นำประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก.

คำติชม