(VOVworld)-วันที่20มีนาคม ประธานาธิบดีสหรัฐบารัคโอบามาได้เริ่มการเยือนอิสราเอล เขตเวสต์แบ๊งก์และจอร์แดนเป็นเวลา3วัน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าปัญหาตะวันออกกลางยังคงเป็นเนื้อหาสำคัญที่ประธานาธิบดีสหรัฐให้ความสนใจในภารกิจของตนในอีก4ปีข้างหน้า แต่ถึงอย่างไรก็ดี การเยือนก็ยากที่จะสร้างก้าวกระโดดใหม่ให้แก่การแก้ไขความไร้เสถียรภาพของภูมิภาคนี้
|
ประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มการเยือนอิสราเอล เขตเวสต์แบ๊งก์และจอร์แดนเป็นเวลา3วัน(internet) |
ตามกำหนดการ ที่ประเทศอิสราเอลนายโอบามาจะพบปะกับนายกฯเบนจามิน เนทันยาฮูและกล่าวปราศรัยต่อนักศึกษา ณ เยรูซาเลมและเยือนสถานที่บางแห่งเช่น เขตรำลึกผู้เคราะห์ร้ายชาวยิวที่ถูกสังหาร ยาด วาเซมหรือโบสถ์เบทเลเฮม ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของคริสต์ศาสนิกชน ที่เขตเวสต์แบ๊งก์ ประธานาธิบดีสหรัฐจะพบปะกับประธานาธิบดีปาเลสไตน์มามุดอาบบาสและนายกฯซาลาม ฟาย์ยาดและเยือนศูนย์เยาวชนปาเลสไตน์ ต่อจากนั้น นายโอบามาจะเดินทางไปเยือนจอร์แดนเป็นเวลา1วันซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐเพื่อหารือถึงปัญหาความรุนแรงในเขตชายแดนของซีเรียในสภาวการณ์ที่มีชาวซีเรียกว่า4หมื่น5พันคนอพยพเข้าจอร์แดนและกำลังต้องการความช่วยเหลือจากนานาชาติ
ก็ไม่ยากเพื่อที่จะเข้าใจว่าทำไมประธานาธิบดีโอบามาได้มีกิจกรรมที่คึกคักในอิสราเอลและเขตเวสต์แบ๊งก์เพราะภูมิภาคนี้มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นต่อผลประโยชน์ของสหรัฐและจากข้อมูลที่ถูกเปิดเผยก่อนการเยือนได้เป็นการยืนยันว่า ความสนใจเป็นอันดับต้นๆของนายโอบามาคือการสมานรอยร้าวในความสัมพันธ์กับนายกฯอิสราเอลที่เริ่มมาจากปัญหาที่สหรัฐอยากใช้มาตรการทางการทูตและการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจมากกว่าการโจมอิหร่านตามจุดยืนของฝ่ายอิสราเอลและเพื่อคลี่คลายปัญหานี้ก่อนการเยือน นายโอบามาก็ได้ประกาศเตือนอิหร่านอีกครั้งว่าต้องมีมาตรการลดความตึงเครียดต่อปัญหานิวเคลียร์และย้ำว่าถึงเวลาแล้วที่ผู้นำอิหร่านต้องมีปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า โครงการนิวเคลียร์มีเป้าหมายเพื่อการวิจัยทางการแพทย์และไฟฟ้า นอกจากนี้ กระบวนการสันติภาพระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ก็เป็นประเด็นที่สำคัญในการเยือนแต่ถึงกระนั้น ความหวังของประชามติเกี่ยวกับการฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพนี้กลับมีความมืดมนเพราะก่อนการเยือนดังกล่าวประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวปราศรัยต่อผู้นำชมรมชาวยิวในสหรัฐว่าจะไม่มีการเสนอข้อคิดใหม่เพื่อแก้ไขความชงักงันในการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่ยืดเยื้อมาหลายปีและไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะแก้ไขปัญหาการเมืองต่างๆ ทั้งนี้ประชามติได้วิเคราะห์ว่า เป้าหมายสำคัญของการเยือนนี้ก็คือพยายามไม่ให้ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ตลอดจนปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านไม่ทวีความตึงเครียดมากขึ้น แม้แต่เจ้าหน้าที่ของปาเลาไตน์เองก็ปฏิเสธไม่แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเยือนในขณะที่ประธานาธิบดีอาบบาสเห็นว่า ผลการเยือนจะเป็นเพียงการกระตุ้นกระบวนการเจราจาที่ชงักงันมาตั้งแต่ปี2010เท่านั้น
จากสถานการณ์ตะวันออกกลาง การเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกในการดำรงตำแหน่งวาระที่สองนั้นเป็นเพียงการตรวจดูสถานการณ์ของฝ่ายต่างๆและเตรียมพร้อมให้แก่การฟื้นฟูการเจรจาสันติภาพเท่านั้นจึงได้รับการตอบรับน้อยกว่าการเยือนเมื่อ4ปีก่อนที่นายโอบามามาเยือนตะวันออกกลางในฐานะผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งเป็นช่วงที่ประชามติคาดหวังงว่าเขาจะเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงโดยพื้นฐานในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับโลกอาหรับและอิสลาม./.