การลงสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเพื่อการค้ำประกันสิทธิมนุษยชนที่ครอบคลุมมากขึ้น

Thu Hoa
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ปัจจุบัน เวียดนามเป็นสมาชิกของกลุ่มแกนหลักว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสิทธิมนุษยชนของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และกำลังอยู่ในขั้นตอนการลงสมัครเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2025 ซึ่งผ่านการลงสมัครเป็นสมาชิกของสภาฯ เวียดนามจะส่งเสริมบทบาทที่แข็งขัน สานต่อและเผยแพร่ความคิดริเริ่ม ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการผลักดันวิธีการเข้าถึงโดยถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะ ความพยายามฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิด-19 และร่วมมือกับโลกเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน
การลงสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเพื่อการค้ำประกันสิทธิมนุษยชนที่ครอบคลุมมากขึ้น - ảnh 1จนถึงวันที่ 8 มีนาคม หลังจากดำเนินการรณรงค์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศเป็นเวลาหนึ่งปี เวียดนามได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วเกือบ 198.3 ล้านโดส (VNA)

ปัจจุบัน ปัญหาการค้ำประกันสิทธิมนุษยชนกำลังมีความเร่งด่วนมากขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั่วโลกเต็มไปด้วยความท้าทายด้านความมั่นคงทั้งในรูปแบบที่มีอยู่และรูปแบบใหม่ซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อทุกประเทศและทุกประชาชาติ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในโลก ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อทุกด้านของชีวิตสังคม รวมถึงการใช้สิทธิมนุษยชนและความพยายามของรัฐบาลเวียดนามในการค้ำประกันสิทธิของประชาชน ในขณะเดียวกัน ความรุนแรงและความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่สร้างภัยคุกคามต่อสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาเท่านั้น หากยังขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนั้น ภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมยังคงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชีวิตของประชาชนทุกคน ส่วนความไม่เท่าเทียมกันภายในประเทศและระหว่างประเทศก็ยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น

ในสภาวการณ์ที่เต็มไปด้วยความท้าทายนี้ เวียดนามได้ยึดมั่นปฏิบัตินโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายเกี่ยวกับการค้ำประกันและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เคยกล่าวย้ำว่า "ไม่ยอมแลกสวัสดิการสังคม สิ่งแวดล้อม การพัฒนาและความยุติธรรมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ" และว่า "การดูแลประชาชนเกือบ 100 ล้านคนเพื่อมีชีวิตที่อิ่มหนำผาสุก มีประชาธิปไตย มีชีวิตที่สงบปลอดภัย  คือสิ่งที่สำคัญที่สุด" ซึ่งในทางเป็นจริง จนถึงขณะนี้ ปัญหาการปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนยังคงเป็นเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษในรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ยุทธศาสตร์และแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนามมาโดยตลอด บนพื้นฐานนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายดังกล่าว เวียดนามได้ดำเนินการตามพันธกรณีและคำมั่นระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงข้อเสนอแนะตามกลไกการตรวจสอบเป็นประจำหรือ UPR สำหรับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เวียดนามกำหนดว่า การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดเป็นหน้าที่หลักและการปกป้องสุขภาพของประชาชนเป็นหน้าที่ที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ

ด้วยความพยายามของทั้งระบบการเมืองและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของประชาชน จนถึงวันที่ 8 มีนาคม หลังจากปฏิบัติการรณรงค์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศหนึ่งปี เวียดนามได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วเกือบ 198.3 ล้านโดส และกลายเป็นหนึ่งใน 6 ประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุดในโลก ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลเวียดนามในการผลักดันการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพต่อการปรับตัวอย่างปลอดภัยและคล่องตัวและควบคุมโรคระบาดเพื่อปกป้องสุขภาพและชีวิตของประชาชน และนำประเทศกลับสู่ยุคชีวิตวิถีใหม่ ในด้านเศรษฐกิจ ถึงแม้ประสบอุปสรรคจากการแพร่ระบาด แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามยังคงบรรลุร้อยละ 2.58 ในปี 2021 และได้รับการคาดการณ์จากธนาคารโลกหรือ WB ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามอาจกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 6.5-7 ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป ในสภาวการณ์ที่โลกกำลังค่อยๆเปิดกว้างและฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ เวียดนามยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินตามกระบวนการฟื้นฟูที่ครอบคลุมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ค้ำประกันการเติบโตอย่างครอบคลุมและยั่งยืนเพื่อสร้างสังคมที่ยุติธรรมสำหรับทุกคน โดยถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นเจ้าของ เป็นเป้าหมาย และเป็นแรงผลักดันแห่งการพัฒนา

เพื่อยืนยันคุณค่าที่เวียดนามได้พยายามนำมาสู่ประชาชนซึ่งก็เป็นคุณค่าที่สหประชาชาติมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์เพื่อมนุษยชาติ เวียดนามได้ลงสมัครเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติหรือUNHRCวาระปี 2023-2025 และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอาเซียนให้เป็นผู้สมัครเพียงรายเดียวของภูมิภาคสำหรับวาระนี้  ในการประชุมประจำครั้งที่ 49 สภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน ได้ยืนยันอีกครั้งถึงความปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมต่อความพยายามร่วมกันเพื่อค้ำประกันสิทธิมนุษยชนสำหรับประชาชนทุกคนในโลกผ่านการลงสมัครเป็นสมาชิก เวียดนามพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และส่งเสริมกิจกรรมต่างๆของสภาสิทธิมนุษยชนอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการเจรจา ความร่วมมือและการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน

การลงสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเพื่อการค้ำประกันสิทธิมนุษยชนที่ครอบคลุมมากขึ้น - ảnh 2รัฐมนตรีต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน (nld.com.vn)

ให้ความสนใจต่อการค้ำประกันสิทธิมนุษยชนอย่างครอบคลุมในทุกด้าน เวียดนามให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการปกป้องสิทธิของกลุ่มที่เปราะบาง ความเสมอภาคทางเพศ การค้ำประกันสิทธิมนุษยชนในการแก้ปัญหาระดับโลก โดยเฉพาะ การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นอกจากนั้น เวียดนามยังให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมสิทธิด้านสุขภาพในสภาวการณ์แห่งการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และโรคติดเชื้อ สิทธิในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติเป้าหมาย SDGs สิทธิในการศึกษาที่มีคุณภาพบนพื้นฐานความเท่าเทียมกันทั้งในด้านโอกาสและการเข้าถึง ผ่านการลงสมัครเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชน เวียดนามสามารถส่งเสริมบทบาทที่เข้มแข็ง การสานต่อและการเผยแพร่ความคิดริเริ่ม  ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆและส่งเสริมวิธีการเข้าถึงที่ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะความพยายามฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิด-19 และการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศร่วมกับประชาคมโลก

เวียดนามเคยเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2014-2016 โดยมีความคิดริเริ่มและนิมิตหมายในเชิงบวกมากมาย ยืนหยัดแนวทางถือประชาชนเป็นศูนย์กลางของการตัดสินใจ เวียดนามกำลังพยายามร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อสร้างอนาคตที่ดีซึ่งสิทธิมนุษยชนได้รับการค้ำประกันอย่างครอบคลุมในทุกด้าน.

คำติชม