(VOVworld) – “ขยายการสร้างสรรค์พรรคให้มีความบริสุทธิ์และเข้มแข็ง” ซึ่งเป็นประเด็นแรกในหัวข้อของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 ที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอยในระหว่างวันที่ 20-28 มกราคม ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์กว่าเป้าหมายของการประชุมสมัยก่อนๆ พร้อมทั้งเป็นเงื่อนไขชี้ขาดให้พรรคที่กุมอำนาจสามารถคงอยู่อย่างเข้มแข็ง ยั่งยืนและได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
สมาชิกพรรคอนุมัติระเบียบวาระการประชุม
|
การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ผ่านๆมาได้มีการระบุหน้าที่การสร้างสรรค์พรรคเป็นเนื้อหาสำคัญในรายงานการเมือง โดยในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 10 พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ย้ำว่า “ยกระดับทักษะความสามารถในการนำและพลังการต่อสู้ของพรรค” ส่วนในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 11 ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า “ยกระดับทักษะความสามารถในการนำและพลังการต่อสู้ของพรรคต่อไป” ส่วนในร่างรายงานการเมืองที่ยื่นต่อการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 ได้ระบุอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับการสร้างสรรค์พรรคทั้งในด้านคุณธรรมและทักษะความสามารถในการนำ
การสร้างสรรค์พรรคเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ
ภารกิจการสร้างสรรค์พรรคได้ถูกระบุในร่างรายงานการเมืองที่ยื่นต่อการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 ว่าเป็นการสานต่อการปฏิบัติมติ “บางปัญหาที่เร่งด่วนในการสร้างสรรค์พรรคปัจจุบัน” หรือมติของคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 11 เมื่อวันที่ 16 มกราคมปี 2012
หลังการปฏิบัติมาเป็นเวลา 4 ปี มติดังกล่าวได้ประสบผลสำคัญในเบื้องต้น ซึ่งมีส่วนร่วมเพิ่มความเข้มงวดของระเบียบวินัยและแจ้งเตือนภัยกับป้องกันพฤติกรรมที่ทุจริตเพื่อเป็นพื้นฐานผลักดันการสร้างสรรค์พรรค ต่อต้านและป้องกันความเสื่อมถอยแนวความคิดทางการเมือง ความเสื่อมถอยด้านคุณธรรมและวิถีชีวิตของเจ้าหน้าที่และสมาชิกพรรคอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงส่งผลให้สามารถควบคุมการคอร์รัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยในเบื้องต้น การวางแผน ฝึกอบรมและโยกย้ายเจ้าหน้าที่ได้รับการผลักดันอย่างรวดเร็วกว่า การปฏิบัติมติของคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 11ส่วนใหญ่ได้ส่งผลดีต่อประเทศในการฟันฝ่าอุปสรรค รักษาความมั่นคงทางการเมือง พัฒนาเศรษฐกิจสังคมและเสริมสร้างความไว้วางใจภายในพรรคและประชาชน
ต่อผลสำเร็จดังกล่าว 6 หน้าที่ที่ต้องระดมพลังทุกแหล่งเพื่อปฏิบัติในวาระนี้ของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 ที่ถูกระบุในร่างรายงานการเมือง พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อหน้าที่ “ขยายการสร้างสรรค์และปรับปรุงพรรค ป้องกันและทำลายความเสื่อมถอยของแนวความคิดทางการเมือง คุณธรรมและวิถีชีวิตและเกิดการผันผวนเอง และการ “เปลี่ยนแปลงเอง” ภายในพรรค เน้นสร้างสรรค์แถวขบวนบุคลากรพรรค โดยเฉพาะแถวขบวนเจ้าหน้าที่ระดับยุทธศาสตร์ให้มีความสามารถคุณสมบัติและชื่อเสียงให้สมกับหน้าที่ที่จะได้รับมอบหมาย” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของการสร้างสรรค์และปรับปรุงพรรค สมาชิกพรรคแต่ละคน องค์กรพรรคแต่ละองค์กรและทั้งพรรคต้องเชิดชูความรับผิดชอบต่อประชาชนและประชาชาติเพื่อแปรความตั้งใจทางการเมืองให้กลายเป็นการปฏิบัติปฎิวัติ สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ก้าวกระโดดในภารกิจการพัฒนาประเทศ โดยเริ่มจากการสร้างสรรค์และปรับปรุงพรรค ซึ่งเป็นหน้าที่อันดับแรก รองศ.ดร.เหงียนเวียดทง เลขาธิการสภาทฤษฎีส่วนกลาง สมาชิกของคณะกรรมการจัดทำร่างรายงานการเมืองที่ยื่นต่อการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 เผยว่า “ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ผ่านๆมา หัวข้อของที่ประชุมหรือหัวเรื่องของรายงานการเมืองจะเริ่มต้นด้วยเนื้อหาที่กล่าวย้ำถึงพรรค แต่ในร่างรายงานการเมืองครั้งนี้ได้ระบุอย่างชัดเจนถึงการขยายการสร้างสรรค์พรรคให้มีความบริสุทธิ์และเข้มแข็ง ความบริสุทธิ์นี้หมายถึงปัญหาคุณธรรมและความเข้มแข็งหมายถึงความสามารถและพลังการต่อสู้ของพรรค ในรายงานครั้งนี้ได้ระบุถึงปัญหาการสร้างสรรค์พรรคให้มีความบริสุทธิ์และเข้มแข็งคือระบุถึงการสร้างสรรค์พรรคอย่างสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ของหลักนโยบายพรรคฉบับเพิ่มเติมเมื่อปี 2011 การนำอย่างถูกต้องของพรรคเป็นปัจจัยชี้ขาดชัยชนะของการปฏิวัติเวียดนาม”
สร้างสรรค์พรรคให้มีความเข้มแข็งเพื่อปฏิบัติหน้าที่การนำอย่างรอบด้าน |
|
สร้างสรรค์พรรคให้มีความเข้มแข็งเพื่อปฏิบัติหน้าที่การนำอย่างรอบด้าน
ร่างรายงานการเมืองยืนยันว่า การผลักดันภารกิจการสร้างสรรค์พรรคโดยแกนหลักคือความตั้งใจและการยืนหยัดปฏิบัติมติของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 11 โดยต้องปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียง ในทุกด้านและตั้งแต่ทฤษฎีไปจนถึงการปฏิบัติ ในด้านการเมือง พรรคยืนหยัดปฏิบัติตามลัทธิมากซ์ – เลนินและแนวความคิดโฮจิมินห์ โดยประยุกต์ใช้อย่างมีความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในเวียดนาม ยืนหยัดเป้าหมาย เอกราชแห่งชาติและสังคมนิยม ยืนหยัดแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ ในการเปลี่ยนแปลงใหม่แนวความคิดและทฤษฎี พรรคจะต่อสู้ ยับยั้งและทำลายความเสื่อมถอยแนวความคิดทางการเมือง คุณธรรมและวิถีชีวิต การป้องกันและผลักถอยการเกิดการผันผวนเอง และการ “เปลี่ยนแปลงเอง” ภายในพรรค ควบคู่กันนั้นต้องต่อต้านลัทธิเห็นแก่ตัว การฉวยโอกาสและการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว สร้างสรรค์แถวขบวนสมาชิกพรรคเป็นผู้เดินหน้า เป็นตัวอย่างและใกล้ชิดกับประชาชน มีความรับผิดชอบสูงในหน้าที่การงานและมีทักษะความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ประสบความสำเร็จ พรรคยังผลักดันการปฏิบัติยุทธศาสตร์เจ้าหน้าที่ในยุคแห่งการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ทำการเปลี่ยนแปลงใหม่การเลือกตั้งภายในพรรค วิธีการคัดเลือกและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เพื่อเลือกผู้ที่มีทักษะความสามารถอย่างเพียงพอให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร โดยเฉพาะผู้เป็นหัวหน้า พร้อมทั้งต้องตระหนักได้ดีว่า การต่อต้านปราบปรามการคอร์รัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเป็นหน้าที่ที่ลำบาก ซับซ้อนและต้องใช้เวลา ดังนั้น ในร่างรายงานการเมืองจึงระบุอย่างชัดเจนถึงการยืนหยัดในการต่อต้านและปราบปรามการคอร์รัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย โดยต้องเป็นฝ่ายรุกในการป้องกันและจัดทำร่างระเบียบการที่มีลักษณะป้องปรามและลงโทษเพื่อให้สมาชิกไม่กล้าทุจริต นายฝามเท้เหยีวด อดีตสมาชิกกรมการเมืองและอดีตประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้กล่าวว่า “ต้องปฏิบัติมติของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 11เกี่ยวกับการสร้างสรรค์พรรคให้ดีขึ้นต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงต้องเป็นตัวอย่างให้ประชาชนปฏิบัติตาม พรรคต้องทุ่มเทและมีความเป็นเอกฉันท์ในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติให้เข้มแข็งและพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วในยุคแห่งการผสมผสานนี้”
“ขยายการสร้างสรรค์พรรคให้มีความบริสุทธิ์และเข้มแข็ง” หมายถึงการระบุในทุกด้านเกี่ยวกับการสร้างสรรค์พรรคทั้งในด้านคุณธรรมและทักษะความสามารถในการนำ ความบริสุทธิ์และเข้มแข็งอย่างแท้จริงจะช่วยให้พรรคปฏิบัติหน้าที่ของประวัติศาสตร์คือการเป็นพรรคกุมอำนาจที่ชี้นำภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์สังคมนิยม.