(Photo:Kinhtedothi.vn )
|
ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 ได้ถอดบทเรียนอันล้ำค่าต่างๆโดยบทเรียนเกี่ยวกับการใช้โอกาสการปฏิวัตินั้นมีความหมายสำคัญพิเศษและเป็นปัจจัยชี้ขาดที่ช่วยให้เวียดนามสร้างชัยชนะในภารกิจต่างๆ
ใช้โอกาสเพื่อยกระดับสถานะบนเวทีโลก
นาย หวูกวางวิงห์ อดีตบรรณาธิการนิตยสารประวัติศาสตร์พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม สังกัดสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้แสดงความคิดเห็นว่า ในการปฏิวัติเดือนสิงหาคม พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการสร้างโอกาสและใช้โอกาสนั้นอย่างทันท่วงทีเพื่อชี้นำให้ประชาชนทำการลุกขึ้นสู้ในเดือนสิงหาคมยึดคืนอำนาจการปกครองประเทศ แต่ในขณะนั้น ก็ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ในประเทศและโลก เพราะถ้าโอกาสยังไม่มาถึงก็ไม่สามารถชนะได้
จากการประยุกต์ใช้บทเรียนดังกล่าวในปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้วิเคราะห์และให้ข้อสังเกตว่า การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและโลกาภิวัตน์คือแนวโน้มการพัฒนาของโลกที่ไม่สามารถขัดขวางได้ ซึ่งนี่ก็เป็นโอกาสให้เวียดนามพัฒนาอย่างรอบด้านตามแนวทางที่ทันสมัย
บนเจตนารมณ์ดังกล่าว เวียดนามได้กำหนดความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และหุ้นส่วนในทุกด้านกับทั้ง 5 ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับที่แตกต่างกันกับเกือบ 200 ประเทศ เวียดนามได้ดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2008 - 2009 และประธานอาเซียนปี 2010 เป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดสหรัฐ - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี โดยเฉพาะในปี 2020 นี้ เวียดนามได้ดำรงทั้งตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020 - 2021 และประธานอาเซียน ซึ่งถือเป็นโอกาสให้เวียดนามยืนยันสถานะบนเวทีโลก นาย โงกวางซวน เอกอัครราชทูต หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติวาระปี 1993 - 1999 และองค์การระหว่างประเทศ ณ เมืองเจนีวาในระหว่างปี 2002 - 2008 แสดงความคิดเห็นว่า “เรากำลังปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เราไม่เพียงแต่เข้าร่วมการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกตามปกติเท่านั้น หากยังเข้าร่วมอย่างเป็นฝ่ายรุกและมีความเป็นผู้นำเหมือนที่ได้รับการชื่นชมในมติต่างๆของคณะกรรมการกลางพรรค สภาแห่งชาติและกระทรวงการต่างประเทศ ดังนั้น เรารู้สึกภูมิใจที่ได้รับมอบหมายหน้าที่นี้จากอาเซียนและสหประชาชาติ ผมคิดว่า การที่เวียดนามดำรงทั้ง 2 ตำแหน่งสำคัญนี้ในปี 2020 ได้ช่วยให้เวียดนามยกระดับบทบาท สถานะ และชื่อเสียง โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของภูมิภาคและโลกต่อเวียดนาม”
ใช้โอกาสเพื่อผลักดันการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก
การใช้โอกาสจากการเมืองที่มีเสถียรภาพและความสัมพันธ์การต่างประเทศที่เปิดกว้าง เวียดนามได้ผลักดันกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างเข้มแข็ง ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ปัจจุบันนี้ เวียดนามเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลกและปฏิบัติคำมั่นต่างๆอย่างสมบูรณ์ในประชาคมอาเซียน ควบคู่กันนั้น เวียดนามได้สร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึกได้มีส่วนร่วมช่วยให้เวียดนามกลายเป็นเศรษฐกิจสำคัญในเครือข่ายการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจชั้นนำของโลก โดยเฉพาะใน 2 ปีมานี้ เวียดนามได้ให้ภาคีข้อตกลงซีพีทีพีพีและเมื่อเร็วๆนี้ได้ลงนามข้อตกลงอีวีเอฟทีเอกับสหภาพยุโรป นาย หว่างก๊วกเหวือง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ให้ข้อสังเกตว่า “ข้อตกลงเหล่านี้จะผลักดันความสัมพันธ์การค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนต่างๆ ตอบสนองความต้องการของประชาชนและสถานประกอบการ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพลังภายในของสถานประกอบการและความตั้งใจในการเปลี่ยนแปลงใหม่ของสถานประกอบการ ดังนั้นนี่คือจังหวะเพื่อให้สถานประกอบการต้องเปลี่ยนแปลงความคิดในการเข้าถึงโลก เป็นฝ่ายรุกมากขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและการแข่งขันในตลาดโลกเพื่อใช้โอกาสจากข้อตกลงเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่”
บนเส้นทางพัฒนาในอนาคต เวียดนามมีทั้งโอกาสและความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะในขณะที่ประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แต่ประชาชนเวียดนามเชื่อมั่นว่า บทเรียนจากการใช้โอกาสในการปฏิวัติเดือนสิงหาคมยังคงสามารถประยุกต์ใช้ต่อไปบนเส้นทางการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม./.