การแสดงรำพัดของชาวจาม |
เราสามารถเห็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยเผ่าจามผ่านสถาปัตยกรรมต่างๆ เช่นปราสาทประติมากรรมนูนต่ำและเทวรูปเป็นต้นซึ่งมรดกเหล่านี้ทำให้เห็นว่าชาวจามมีความสามารถในด้านศิลปะที่ยอดเยี่ยม โดยปราสาทต่างๆ ของชาวจาม โดยเฉพาะในเขตโบราณสถานหมีเซินได้รับการประเมินว่า มีคุณค่าเทียบเท่ากับปราสาทอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันจังหวัดนิงถ่วนได้ควบรวมกับจังหวัดแค้งหว่า ปราสาท Po Klong Garai ที่กษัตริย์ Jaya Simhavarman III มีดำรัสให้ก่อสร้างเมื่อปลายศตวรรษที่ 18 เพื่อบูชากษัตริย์ Po Klong Garai (1151 - 1205)ได้รับการรับรองเป็นมรดกพิเศษแห่งชาติคุณ แถ่งไหญ รองผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์นิงถ่วนกล่าวว่า
“Po Klong Grai คือปราสาทที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างสมบูรณ์มากที่สุดในระบบปราสาทจามถึงขณะนี้ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ลงนามรับรองเป็นมรดกพิเศษแห่งชาติ จำนวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวปราสาทแห่งนี้นับวันเพิ่มมากขึ้น เมื่อมาเที่ยวที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้ฟังบรรยายข้อมูลเป็นภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ เราก็มีรถไฟฟ้าพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวด้วย และก่อนหน้านี้มีการจัดแสดงศิลปะในเทศกาล กาเต เท่านั้น แต่ขณะนี้ เราได้จัดการแสดงศิลปะในทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์ เทศกาลและตรุษเต๊ตเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกด้วย”
นอกจากนี้ เรายังสามารถเห็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาวจามผ่านสถาปัตยกรรมของบ้านพื้นเมืองของชาวจามโดยบ้านของชาวจามกว้างมาก มีกลุ่มบ้านรวม 5-7 หลังอยู่ร่วมกันนาย ด่างชี้เกวี๊ยด จากตำบลนิงเฟือก กล่าวว่า
“ชาวจามจะหาแหล่งน้ำก่อนที่จะก่อสร้างที่อยู่อาศัยบ่อน้ำมักจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เตาจะตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทุกครั้งที่สร้างบ้านจะเตรียมไม้ให้ครบก่อนแล้วจึงจะเริ่มการก่อสร้าง ผนังบ้านทำจากโคลนผสมกับฟางและน้ำ นวดให้เข้ากันแล้วฉาบเป็นผนังบ้าน”
ชาวจามมีท่าระบำประมาณ 80 ท่าซึ่งแต่ละท่าจะสะท้อนถึงเทพเจ้าทั้ง 80 องค์โดยส่วนใหญ่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับศาสนา ความเชื่อต่อเทพเจ้าและพิธีกรรมในวังโดยระบำของพระศิวะ พระแม่อุมาและนางอัปสรา ล้วนเป็นท่าที่คุ้นเคย ซึ่งสามารถทำการแสดงได้ทั้งแบบเดี่ยวหรือแบบหมู่เมื่อกล่าวถึงเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของชาวจามก็ต้องพูดถึงเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะเทศกาล กาเต
ศิลปินหมู่บ้านทำเครื่องปั้นดินเผาเบ่าจุ๊กกำลังผลิตผลิตภัณฑ์ |
กาเตคือเทศกาลพื้นบ้านที่ศักดิ์สิทธิ์ โดดเด่นและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งมักจะจัดขึ้นในเดือน 7 ตามปฏิทินของชาวจาม คือประมาณระหว่างวันที่ 25 กันยายนถึงวันที่25 ตุลาคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษและวีรชนที่ชาวจามยกย่องให้เป็นเทพเจ้า
ชาวจามได้สร้างสรรค์คุณค่าทางดนตรีและศิลปะพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์ โดยผลิตเครื่องดนตรีที่มีลักษณะเฉพาะเช่นกลอง ginangกลอง baranưngปี่ saranaiพิณ kanhiฆ้องและแทมบูรีนนาย กามรี ชาวจามคนหนึ่งกล่าวว่า
“เครื่องดนตรีของชาวจามมี3 ชนิดหลักได้แก่กลองginangกลอง baranưngและปี่ saranaiโดยกลอง ginangเป็นกลองยาวที่มี2 ใบที่เป็นสัญลักษณ์ของขาสองข้างของมนุษย์ส่วนกลอง baranưngคือลำตัวและอวัยวะภายในของมนุษย์ปี่ saranaiมี 7รูคือดวงตาสองข้างหูสองข้างจมูกและปาก”
ส่วนวิธีการตีกลองของชาวจามก็พิเศษมาก นาย กาฟิวชาวจามกล่าวว่า
“ไม้ตีกลองสองอันถือเป็นมือ 2 ข้างของมนุษย์ การตีกลองต้องรักษาจังหวะ โดยการตีกลองนั้นก็ตามหลักหยิน-หยาง คือฝ่ายหยินจะใช้มือตีส่วนฝ่ายหยางจะใช้ไม้ตีกลอง”
ชนกลุ่มน้อยเผ่าจามมีจำนวนราว180,000 คนคิดเป็นไม่ถึงร้อยละ1ของประชากรเวียดนามแต่ชาวจามมีวัฒนธรรมที่หลากหลายและพัฒนาอย่างงดงาม โดยได้สร้างความหลากหลายและความเป็นหนึ่งเดียวในความหลากหลายของวัฒนธรรมเวียดนามและเต็มไปด้วยเอกลักษณ์วัฒนธรรมของประชาชาติ.