ส่งเสริมศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งให้พัฒนาในเขตที่ราบสูงเตยเงวียน

H Xíu
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งนับวันพัฒนาอย่างกว้างขวางในจังหวัดดั๊กลั๊กและเขตที่ราบสูงเตยเงวียน โดยมีการจัดตั้งสโมสรเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเพื่อทำการแสดงในท้องถิ่นต่างๆ เช่น ในงานมหกรรมศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเมืองบวนมาถวดครั้งที่ ปี 2024 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มี 14 ทีมจากจังหวัดดั๊กนง เลิมด่งและดั๊กลั๊กเข้าร่วม ซึ่งมีส่วนร่วมส่งเสริมศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งให้พัฒนามากขึ้นในเขตที่ราบสูงเตยเงวียน
ส่งเสริมศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งให้พัฒนาในเขตที่ราบสูงเตยเงวียน - ảnh 1ศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งนับวันพัฒนาอย่างกว้างขวางในจังหวัดดั๊กลั๊กและเขตที่ราบสูงเตยเงวียน

ศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งคือกิจกรรมทางวัฒนธรรมของชนเผ่าไตและหนุ่งในเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม โดยในงานมหกรรมศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเมืองบวนมาถวดปีนี้ ได้มีการแสดงเกือบ 70 รายการ โดยเพลงต่างๆมีเนื้อร้องสรรเสริญบ้านเกิด ประเทศ ความรักคู่หนุ่มสาว ตัวอย่างคนดีทำความดีและวิถีชีวิตของชาวบ้าน เช่น สโมสรเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเมืองบวนมาถวด จังหวัดดั๊กลั๊กได้ร้องเพลง “Pắc Pó Ba Đình”  “Bài then tặng mẹ” “Trẩy hội Bản Đôn”  “Xuân Đắk Lắk” และ “Cắp khoăn tơ hồng” ซึ่งเพลง “Cắp khoăn tơ hồng”คือเพลงทำนองแทนโบราณของชนเผ่าไต โดยเนื้อเพลงกล่าวถึงเรื่องด้ายแดงแห่งพรหมลิขิตและความปรารถนาของแม่เกี่ยวกับชีวิตคู่ที่ยั่งยืนและมั่นคงของลูกสาว นาง ลวนถิมาย หัวหน้าสโมสรการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเมืองบวนมาถวดได้เผยว่า

 “พวกเราได้ฝึกร้องตามกลุ่ม อีกทั้งปรับปรุงและเรียบเรียงเนื้อร้องเพื่อเตรียมให้แก่งานมหกรรม”

ส่วนที่จังหวัดเลิมด่ง ซึ่งมีชนเผ่าไตและหนุ่งอาศัยเป็นจำนวนมาก ศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง โดยนาง หว่างถิกิม รองหัวหน้าสโมสรการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งตำบลเตินแทง อำเภอเลิมห่า จังหวัดเลิมด่งได้เผยว่า นอกจากเพลงทำนองแทนโบราณ ก็ยังมีการดัดแปลงเนื้อร้องใหม่ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตในปัจจุบัน โดยเฉพาะการแสดงและกิจกรรมการแลกเปลี่ยนในงานมหกรรมการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเมืองบวนมาถวดได้ช่วยให้สมาชิกสโมสรฯสามารถเรียนรู้จากเพลงใหม่ๆเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้แก่กิจกรรมของสโมสรฯ

“การแสดงและการร้องเพลงในงานล้วนเป็นเพลงที่ไพเราะมาก ซึ่งดิฉันอยากพบปะสังสรรค์และแลกเปลี่ยนกับคนในวงการนี้”

สิ่งที่น่าประทับใจในงานปีนี้คือการเข้าร่วมของเด็กหญิง เยืองบ๋าวโจว์ นักร้องวัย 9 ขวบ ซึ่งเป็นสมาชิก 1 ใน 2 คนที่มีอายุน้อยที่สุดของสโมสรการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเมืองบวนมาถวด  เด็กหญิง เยืองบ๋าวโจว์ กล่าวว่า

 “หนูชอบเพลงทำนองแทนมากและชอบร้องเพลงนี้ให้ทุกคนได้ชม ส่วนคุณย่าสอนหนูเล่นพิณติ๊ง”

ส่งเสริมศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งให้พัฒนาในเขตที่ราบสูงเตยเงวียน - ảnh 2การแสดงของสโมสรการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเมืองบวนมาถวด  

ในงานมหกรรมศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเมืองบวนมาถวด คณะกรรมการจัดงานได้มอบรางวัลที่หนึ่งให้แก่สโมสรการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเมืองบวนมาถวด รางวัลที่สองเป็นของสโมสรการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งแขวงเหงวียะฟู้ เมืองยาเหงวียะ จังหวัดดั๊กนงและสโมสรการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งอำเภอเลิมห่า จังหวัดเลิมด่ง ส่วนรางวัลที่สามถูกมอบให้แก่สโมสรการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งตำบล Ea Púk  อำเภอ Krông Năng  สโมสรการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งบั่งลังในตำบล Nam Dong จังหวัดดั๊กนงและสโมสรการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งตำบลเตินหว่า อำเภอบวนดน นาง ฝ่ามถิหายบิ่ง รองหัวหน้าคณะกรรมการจัดงานได้เผยว่า

 “พวกเรามีความประสงค์ว่า ชุมชนชนเผ่าไต หนุ่งและไทในเมืองบวนมาถวดจะอนุรักษ์และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าตนผสานกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวและท้องถิ่น”

ทั้งนี้ งานมหกรรมศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนและพิณติ๊งเมืองบวนมาถวดครั้งที่ 2 และกิจกรรมแสดงศิลปะในท้องถิ่นต่างๆในเขตที่ราบสูงเตยเงวียนเป็นโอกาสเพื่อให้ชุมชนชนเผ่าไตและหนุ่งในจังหวัดดั๊กลั๊กและเขตที่ราบสูงเตยเงวียนประชาสัมพันธ์มรดกวัฒนธรรมของชนเผ่าตนเพื่อมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพการแสดงและจุดประกายความรักให้แก่คนรุ่นหลังในการอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปะแขนงนี้เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางวัฒนธรรมในเขตที่ราบสูงเตยเงวียน.

คำติชม