การแสดงเพลงทำนอง “เสิม เถิบเอิน”

รายการเริ่มต้นด้วยการแสดงเพลงทำนอง “เสิม เถิบเอิน” ซึ่งมีเนื้อเรื่องยกย่องสดุดี “พระคุณ” 10 ข้อ เช่น พระคุณของพ่อแม่ ครูอาจารย์ ความรักต่อเพื่อนๆ บ้านเกิดและปิตุภูมิ แม้เสียงร้องอาจไม่ได้ไพเราะเหมือนศิลปินมืออาชีพ แต่นักศึกษา “คนรุ่นใหม่ที่หลงใหลวัฒนธรรม” ได้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกนี้ผ่านเพลง ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้นี้

นอกจากการร้องเพลงทำนอง เสิม ในรายการยังเน้นถึงภาพลัษณ์ของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้อื่นๆ เช่น การร้องเพลงทำนองกวานเหาะบั๊กนิงห์ เห่าด่ง ซึ่งเป็นการปฏิบัติความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนาม ศิลปะการแสดงดนตรีพระราชวังเว้ การตีฆ้องเตยเงวียน เพลงทำนองเดิ่นกาต่ายตื๋อ ซึ่งเป็นศิลปะพื้นเมืองทางภาคใต้เวียดนาม นาย เลเหญิดมิงห์ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนามเกิ่นเทอ ที่เข้าร่วมรายการกล่าวว่า

“ผมร้องเพลงเห่าด่ง “โกโดยเถื่องหง่าน” ซึ่งเป็นเพลงที่ได้รับการรับรองเป็นมรดกที่จับต้องไม่ได้จากยูเนสโก ผมและเพื่อนได้ฝึกร้องเป็นเวลา 2 เดือน แล้วก็ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับมรดกวัฒนธรรมนี้ ดูคลิปวิดีโอต่างๆ ผมเองก็หลงใหลเพลงทำนองนี้มากจึงพยายามร้องให้ดีที่สุด ในยุคแห่งการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลที่รวดเร็ว เราควรอนุรักษ์คุณค่าประวัติศาสตร์ให้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อสามารถเผยแพร่ต่อคนรุ่นใหม่และสาธารณะชนมากขึ้น”

การรำถ้วย ซึ่งเป็นการแสดงศิลปะในพระราชวังเว้ในอดีต

เพลงเสิมโบราณภาคเหนือ ศิลปะการแสดงดนตรีพระราชวังเว้ในภาคกลางหรือเพลงทำนอง เดิ่นกาต่ายตื๋อของภาคใต้ต่างก็ได้รับการแสดงอย่างมีความคิดสร้างสรรค์จากนักศึกษา โดยผสมผสานระหว่างการแสดงศิลปะพื้นเมืองกับศิลปะร่วมสมัย ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความสนใจของคนรุ่นใหม่ต่อศิลปะพื้นเมือง นาย เหงวียนก๊วกคาง นักศึกษามหาวิทยาลัยนามเกิ่นเทอ ซึ่งเป็นผู้กำกับรายการนี้กล่าวว่า

“นักศึกษาที่เข้าร่วมรายการนี้มีมากถึง 100 คน โดยผมเห็นว่า นักศึกษาสนใจเรื่องสมัยใหม่ในชีวิตประจำมากกว่า จนบางทีก็ไม่สนใจและไม่ทราบเกี่ยวกับมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของเวียดนาม ดังนั้น รายการนี้ก็ถือเป็นสะพานเชื่อมช่วยประชาสัมพันธ์และเผยแพร่คุณค่าวัฒนธรรมต่อนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ ผมก็อยากมีโอกาสจัดรายการแบบนี้ต่อไปเพื่อเผยแพร่ต่อนักศึกษาในมหาวิทยาลัยอื่นๆ”

รายการ “เสียงเพลงทำนองพื้นเมือง”

ส่วนนาย เจิ่นเหวียดต๊วน รองเลขาธิการกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์สาขานครเกิ่นเทอ กล่าวว่า

“ในมุมมองของกองเยาวชนและสหพันเยาวชนเวียดนามสาขานครเกิ่นเทอ ผมคิดว่า นี่คือกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัว ความคิดสร้างสรรค์และการศึกษาค้นคว้าด้านวัฒนธรรมของนักศึกษา ทางกองเยาวชนฯ และสหพันธ์ฯ ได้สนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่ทางมหาวิทยาลัยฯ สามารถจัดกิจกรรมนี้ได้อย่างมีความหมายและดึงดูดความสนใจของนักศึกษามากขึ้น หวังว่า ในอนาคต กิจกรรมแบบนี้จะได้รับการขยายผลต่อไปเพื่อเผยแพร่ความรักประเทศและกระแสการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเวียดนาม”

รายการละครเวทีต่างๆ โดยเฉพาะรายการ “เสียงเพลงทำนองพื้นเมือง” ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงศิลปะเท่านั้น หากยังเป็นเสียงของมรดกและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ผ่านมุมมองของคนรุ่นใหม่ ซึ่งช่วยให้เราทราบถึงความงามด้านวัฒนธรรมและความรับผิดชอบของคนรุ่นใหม่ในการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมของประชาชาติ.