ในโอกาสครบรอบ 77  ปี วันทหารทุพพลภาพและพลีชีพเพื่อชาติ(27/7/1947 – 27/7/2024) คณะกรรมการบริหารแหล่งประวัติศาสตร์เรือนจำหวาหล่อ ได้จัดนิทรรศการ “Lighting up the red flame”

บุคคลที่เป็นพยานแห่งประวัติศาสตร์ นักปฏิวัติอาวุโส และอดีตนักโทษการเมืองได้มารวมตัวกันเพื่อรำลึกถึงการต่อสู้ที่ยากลำบากในอดีตเพื่อสันติภาพและความผาสุกในปัจจุบัน ภาพจาก Nam Anh/VOV

อดีตนักโทษการเมืองและแขกรับเชิญที่รักชาติหลายคนได้ถูกพาย้อนกลับไปสู่อดีตด้วยความรู้สึกที่ซาบซึ้ง ภาพจาก Di tích Nhà tù Hỏa Lò

การจัดแสดงแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อ ได้แก่ “เสียงปืนแรก”, “คำสาบานแห่งความซื่อสัตย์”, และ “ความทรงจำที่รุ่งโรจน์”

“เสียงปืนแรก” แนะนำข้อมูลเกี่ยวกับช่วงเวลาหลังการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1930 ที่ได้ร่วมกับประชาชนจำนวนมากทำการเคลื่อนไหวปฏิวัติ ( 1930 - 1931) โดยมีจุดสูงสุดคือ การตั้งเขตโซเวียต - เหงะติ๋งเพื่อทำการเคลื่อนไหวเรียกร้องเสรีภาพและหลุดพ้นจากแอกปกครองของนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส (1936 - 1939)

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง วันที่ 22 กันยายน ปี 1940 กองทัพญี่ปุ่นได้บุกโจมตีเมืองหลากเซิน ทิ้งระเบิดใส่เมืองไฮฟอง และยกพลขึ้นบกที่โด่เซิน ซึ่งเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสได้ยอมจำนนต่อกองทัพญี่ปุ่นอย่างง่ายดาย ในขณะที่ทางฝ่ายเวียดนามได้ใช้โอกาสนี้ทำการปฏิวัติทั้งในภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้  เพื่อขับไล่เจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส และฟาสซิสต์ญี่ปุ่น ได้แก่ การปฏิวัติบักเซิน (9/1940) การปฏิวัติภาคใต้ (11/1940) การการปฏิวัติโดเลือง (1/1941) ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จในการปฏิวัติเดือนสิงหาคม ปี 1945

 “คำสาบานแห่งความซื่อสัตย์” กล่าวถึงช่วงหลังของการปฏิวัติ โดยเฉพาะการปฏิวัติภาคใต้ ซึ่งเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสได้ปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงทำการประหารชีวิตผู้นำพรรคหลายคน

เรื่องราวความรักชาติที่เป็นอมตะของนักปฏิวัติ ได้ช่วยให้ผู้ที่ถูกขังในเรือนจำหลายคนมีกำลังใจในการฟันฝ่าความเจ็บปวดจากการถูกทรมาน 

แม้ผ่านมาแล้วหลายทศวรรษแต่เรื่องราวความรักชาติยังคงได้รับการเล่าขานจนถึงปัจจุบัน (ภาพจาก Di tích Nhà tù Hoả Lò)

“ความทรงจำที่รุ่งโจน์” เป็นหัวข้อที่นำผู้ชมกลับไปยังสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งลานประหารและสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพรรค ซึ่งปัจจุบันสถานที่เหล่านี้เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การปฏิวัติที่สำคัญสำหรับคนเวียดนาม

เด็ก ๆ สนใจฟังคำบรรยายและชมนิทรรศการ

นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าชมนิทรรศการในโอกาสนี้

ชาวเวียดนามมาจุดธูปเพื่อรำลึกถึงบุญคุณและแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อทหารทุพพลภาพและพลีชีพเพื่อชาติตามอนุสรณ์สถานต่าง ๆ  ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติที่งดงามของชาวเวียดนาม

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0825112668/ 0822446116 งานนิทรรศการ “Lighting up the red flame” จะจัดไปจนถึงวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่อนุสรณ์สถานเรือนจำหวาหล่อ เลขที่ 1 ถนนหวาหล่อ แขวงเจินฮึงด่าว เขตหว่านเกี๋ยม กรุงฮานอย