นักธุรกิจหญิงที่หลไหลในเครื่องเคลือบดินเผา

Le Thom-Thu Hang- VOV
Chia sẻ
( VOVworld ) - ชีวิตที่สมถะแต่เป็นคนที่ไม่หยุนิ่ง ตัดสินใจเร็วและมีความสามรถในการประกอบธุรกิจคือคำชมที่สงวนให้แก่คุณ ห่าถิ่วิงห์( Ha Thi Vinh ) ผู้จัดการบริษัทกวางวิงห์( Quang Vinh )จำกัด ตำบลบ๊าตจ่าง( Bat Trang ) อำเภอยาเลิม( Gia Lam ) กรุงฮานอย( Ha Noi ) ซึ่งจากความหลงไหลในเครื่องเคลือบดินเผา คุณวิงห์ได้ครุ่นคิดปรับปรุงเทคนิกเพื่อเพิ่มคุณภาพให้แก่สินค้  ทั้งนี้ทำให้สินค้าเครื่องเคลือบดินเผาบ๊าตจ่างได้ปรากฎในหลายประเทศและมีส่วนแบ่งในตลาด

( VOVworld ) - ชีวิตที่สมถะแต่เป็นคนที่ไม่หยุนิ่ง ตัดสินใจเร็วและมีความสามรถในการประกอบธุรกิจคือคำชมที่สงวนให้แก่คุณ ห่าถิ่วิงห์( Ha Thi Vinh ) ผู้จัดการบริษัทกวางวิงห์( Quang Vinh )จำกัด ตำบลบ๊าตจ่าง( Bat Trang ) อำเภอยาเลิม( Gia Lam ) กรุงฮานอย( Ha Noi ) ซึ่งจากความหลงไหลในเครื่องเคลือบดินเผา คุณวิงห์ได้ครุ่นคิดปรับปรุงเทคนิกเพื่อเพิ่มคุณภาพให้แก่สินค้  ทั้งนี้ทำให้สินค้าเครื่องเคลือบดินเผาบ๊าตจ่างได้ปรากฎในหลายประเทศและมีส่วนแบ่งในตลาด

นักธุรกิจหญิงที่หลไหลในเครื่องเคลือบดินเผา - ảnh 1
คุณห่าถิ่วิงห์กำลังแนะนำผลิตภัณฑ์เครื่องเซรามิกของบริษัท

คุณห่าถิ่วิงห์( Ha Thi Vinh )เป็นคนบ๊าตจ่างโดยกำเนิด ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดอาชีพทำเครื่องเคลือบดินเผาก่อนหน้านี้ ๖๐๐ ปี และได้กลายเป็นชีวิตส่วนหนึ่งของเด็กหมู่บ้านเครื่องเคลือบดินเผาบ๊าตจ่างดังเช่นคุณห่าถิ่วิงห์   ปี ๑๙๘๙ คุณวิงห์ได้ตัดสินใจออกจากวิสาหกิจเซรามิกบ๊าตจ่างเพื่อจัดตั้งบริษัทผลิตเครื่องเซรามิกส่งออกหมีแห่ง ( My Hanh ) ด้วยเงินทุนก้อนเล็กซึ่งพอที่จะซื้อรถจักรยานคันหนึ่งในสมัยนั้นเท่านั้น โดยตั้งเป้าส่งออกไปยังต่างประเทศเป็นหลัก แต่เนื่องจากสินค้าของบริษัทยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางคุณห่าถิ่วิงห์จึงต้องเคาะประตูบริษัทนำเข้าส่งออกของฮานอยหลายแห่งแต่ไม่สามารถหาใบสั่งซื้อได้แม้แต่ฉบับเดียว  อย่างไรก็ดีคุณห่าถิ่วิงห์ก็ไม่ย่อท้อและเธอพยายามหาลู่ทางให้แก่บริษัทของตน  “ ดิฉันตัดสินใจเข้านครโฮจิมินห์เพื่อหาลูกค้า  โดยลูกค้ารายแรกมาจากอิตาลีผ่านบริษัทนำเข้าส่งออกนครโฮจิมินห์ ซึ่งสัญญาส่งออกฉบับแรกนี้เราผลิตเครื่องเซรามิกให้แก่งานมหกรรมกีฬาที่อิตาลี  จากผลงานชิ้นแรกนี้ เราได้รับใบสั่งซื้อจากบริษัทนำเข้าและส่งออกบางแห่งของฮานอย  นี่เป็นโอกาสแรกของบริษัทในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและแรงงานมีงานทำที่มั่นคง ” ความพยายามของ คุณห่าถิ่วิงห์ ส่งผลให้บริษัทนำเข้าส่งออกเครื่องเซรามิกหมีแห่งของเธอพัฒนาขยายจากเริ่มแรกที่มีพนักงานและแรงงาน ๖ คนมาปัจจุบันมีถึง ๔๐๐ คน  กรรมวิธีการผลิตเครื่องเคลือบดินเผาตั้งแต่สมัยโบราณใช้ถ่านและเศษไม้ซึ่งทำให้เกิดมลภาวะและคุณภาพของเครื่องเซรามิกก็ไม่ดีนักทำให้ไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้  คุณห่าถิ่วิงห์ได้คิดค้นและนำเตาแก๊สมาใช้แทน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้เตาแก๊สในการผลิตเครื่องเซรามิกของหมู่บ้านบ๊าตจ่างที่ทำให้สินค้ามีคุณภาพสูง  และเธอก็เดินหน้าในการส่งออกสินค้าเครื่องเซรมิกบ๊าตจ่างไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งการก่อตั้งบริษัทกวางวิงห์ถือเป็นความพยายามของเธอในการอนุรักษ์เอกลักษณ์ของเครื่องเซรามิกบ๊าตจ่าง โดยรู้จักผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมพื้นเมืองกับยุคสมัยรวมทั้งมีความคิดสร้างสรรค์ของยุคสมัยที่เป็นความภาคภูมิใจของวัฒนธรรมฮานอย นายเลซวนโฝ( Le Xuan Pho ) นายกสมาคมศิลปาชีพเครื่องเคลือบดินเผาบ๊าตจ่างเผยว่า  “ คุณห่าถิ่วิงห์ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่เครื่องเซรามิกบ๊าตจ่างไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศเช่น สหรัฐ ยุโรป ออสเตรเลียและญี่ปุ่น  ซึ่งลูกค้าต่างประเทศหลายรายพร้อมที่จะร่วมทุนกับเธอ  ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวหมู่บ้านบ๊าตจ่าง

นักธุรกิจหญิงที่หลไหลในเครื่องเคลือบดินเผา - ảnh 2
คุณห่าถิ่วิงห์( คนแรกจากขวา )กับแขกต่างประเทศในงานแสดงสินค้าเซรามิกบ๊าตจ่าง

คุณห่าถิ่วิงห์ ไม่เพียงแต่พัฒนาการผลิตและเผยแพร่สินค้าบ๊าตจ่างไปยังตลาดต่างประเทศเท่านั้น หากยังอนุรักษ์อาชีพพื้นเมืองนี้ให้แก่ชนรุ่นหลังอีกด้วยโดยสนับสนุนเงินเพื่อจัดทำหนังสือประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านที่มีชื่อว่า บ๊าตจ่าง-หมู่บ้านศิลปาชีพและวรรณคดี ซึ่งกำหนดจะพิมพ์จำหน่ายในปี ๒๐๑๓ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ลูกหลานเข้าใจเกี่ยวกับที่มาและวัฒนธรรมของอาชีพทำเครื่องเคลือบดินเผาของบรรพบุรุษ  ความคิดเห็นนี้ได้รับการสนับสนุนจากคนในตระกูลและชาวบ้าน นายเลวันเหลย ( Le Van Loi )หัวหน้าฝ่ายวัฒนธรรมของหมู่บ้านเครื่องเคลือบดินเผาบ๊าตจ่างเผยว่า  “ คุณวิงห์รักอาชีพนี้เป็นชีวิตจิตใจจึงได้เสนอความคิดเกี่ยวกับการจัดทำหนังสือความเป็นมาของหมู่บ้านบ๊าตจ่างที่ได้บันทึกไว้ก่อนหน้านี้นับร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวัน ขนบธรรมเนียมประเพณี งานเทศกาลและอาชีพทำเครื่องเคลือบดินเผา  ซึ่งเป็นหนังสือที่ทำให้เด็กๆได้เข้าใจเกียรติประวัติของหมู่บ้านและเป็นการตักเตือนให้พวกเขาอย่าลืมรากเง่าของตนแม้จะทำงานในต่างถิ่นหรือกำลังอยู่ในหมู่บ้าน

ปัจจุบัน บริษัทกวางวิงห์ได้ส่งออกสินค้าร้อยละ           ๘๐ ไปยังตลาดใหญ่ๆเช่น สหรัฐ ญี่ปุ่นและประเทศยุโรป  แต่คุณวิงห์ยังคงคิดค้นเทคนิกใหม่ๆเพื่อเพิ่มคุณภาพของสินค้ามาตลอดเพราะเธอถือว่า สินค้าแต่ละชิ้นเป็นผลงานทางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ของช่างศิลปะและชาวบ้านบ๊าตจ่าง ./.


คำติชม