บ้าน D67 (Phúc Tài/vovgiaothong.vn) |
บ้าน D67 เป็นบ้านแบบชั้นเดี่ยว มีโครงสร้างพิเศษพร้อมบังเกอร์ใต้ดิน D67 มี 4 ห้อง ห้องใหญ่ตรงกลางเป็นห้องประชุมของกรมการเมือง คณะกรรมการพรรคกองทัพส่วนกลาง ห้องเล็กทางทิศตะวันออกเป็นที่ทำงานของนายพลหวอเงวียนย๊าป ส่วนห้องเล็กทางทิศตะวันตกเป็นที่ทำงานของนายพลวัน เตี๊ยน หยุง ในบ้านมีบังเกอร์ D67 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สร้างขึ้นพร้อมกับบ้าน D67 โดยใช้เป็นศูนย์บัญชาการสำรองเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน บังเกอร์ได้รับการออกแบบให้มีบันได 3 ชั้นลงไปด้านล่างและมีทางออกสองทางทะลุไปบ้านD67 ระบบระบายอากาศและแสงสว่างในบังเกอร์ได้รับการออกแบบพิเศษสำหรับใช้งานได้อย่างต่อเนื่องในกรณีที่ถูกโจมตี
สถานที่ทางประวัติศาสตร์บ้านและบังเกอร์ D67 เป็นศูนย์กลางในการชี้นำแนวทางนโยบายเพื่อไปสู่การปฏิบัติในสนามรบทั่วประเทศและสนามรบอินโดจีน เช่น การลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ตรุษเต๊ตปี 1968 ยุทธนาการณ์ทางหลวงหมายเลข 9 - แคแซง ในปี 1968 ยุทธนาการณ์ทางหลวงหมายเลข 9 - ภาคใต้ของลาวในปี 1971 การโจมตีทำลายภาคเหนือ 12 วันคืนปี 1972 ตลอดจนการปฏิบัติภารกิจระหว่างประเทศต่อลาวและกัมพูชา กระบวนการต่อสู้ปลดปล่อยทะเลและเกาะต่างๆ เป็นต้นและ ณ ศูนย์บัญชาการนี้ ท่านเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรค เล หยวน นายกรัฐมนตรี ฝามวันด่ง และเลขาธิการใหญ่ เจื่องจิง ได้มาติดตามสถานการณ์การต่อสู้ที่สมรภูมิต่างๆ รวมทั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด หวอเงวียนยาป ก็มักจะประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆเพื่อชี้นำการปฏิวัติ พันเอก รองศาสตราจารย์ ดร. เหงวียน แหมง ฮา อดีตรองผู้อำนวยการสถาบันประวัติศาสตร์การทหารเวียดนาม กล่าวว่า"ในปี 1967 เมื่อสงครามทำลายล้างของศัตรูขยายไปยังภาคเหนือ กองบัญชาการทหารส่วนกลางได้มีความคิดสร้างบ้านหลบภัยเพื่อป้องกันระเบิด สำหรับคณะผู้นำกองบัญชาการส่วนกลางเพื่อให้สามารถย้ายจากที่ทำงานที่อยู่ใกล้ๆไปยังบ้าน D67 เมื่อถูกโจมตีด้วยระเบิด กำแพงบ้านหนามาก ประตูก็แข็งแรงมาก ป้องกันเสียงจากภายนอก ป้องกันรังสีและสารเคมีได้ เป็นที่ใช้งานสำหรับการประชุมที่สำคัญๆเท่านั้น บ้านหลังนี้ได้รับการออกแบบเรียบง่าย ใช้งานง่าย แต่แข็งแรงและปลอดภัยมากสร้างเสร็จในปี 1967 จึงเรียกว่าบ้าน D67"
ห้องประชุมของกรมการเมือง คณะกรรมการพรรคกองทัพส่วนกลาง |
ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 1974 ถึงวันที่ 8 มกราคม 1975 ที่บังเกอร์ D67 กรมการเมืองพรรคได้ประชุมหารือและแสดงความมุ่งมั่นที่จะปลดปล่อยภาคใต้ภายในปี 1975 และ 1976 โดยมีการติดตามและชี้นำการดำเนินการการลุกขึ้นต่อสู้ครั้งใหญ่ฤดูใบไม้ผลิในปี 1975 ด้วยจุดสูงสุดคือยุทธนาการณ์โฮจิมินห์แห่งประวัติศาสตร์ และที่บ้านหลังนี้ กองบัญชาการส่วนกลางก็ได้รับข่าวชัยชนะจากทางภาคใต้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 1975
นอกจากความหมายทางประวัติศาสตร์แล้ว บ้าน D67 ยังเป็นสัญลักษณ์ของจิตใจแห่งการต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาวการณ์ความยากลำบาก และความมุ่งมั่นในการช่วงชิงเอกราชมาให้แก่ประเทศชาติ ปัจจุบันบ้านและบังเกอร์ D67 ยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์ รวมถึงโบราณวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่างๆเช่น โต๊ะและเก้าอี้ในห้องประชุม บนโต๊ะมีแผ่นป้ายชื่อและตำแหน่งของผู้เข้าร่วมการประชุมสำคัญ พร้อมด้วยระบบแผนที่และอุปกรณ์การสื่อสารในการออกคำสั่งชี้นำการต่อสู้ นายเหงวียนแทงกวาง ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์มรดกทังลอง ฮานอย กล่าวว่า"สิ่งของต่างๆ ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ไปจนถึงโทรศัพท์ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้หวนนึกถึงช่วงเวลาที่สำคัญแห่งการปฏิวัติ ช่วยบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งช่วยให้คนคนรุ่นที่ไม่ได้อยู่ในช่วงสงครามมีความเข้าใจว่าบรรพบุรุษของพวกเขาต่อสู้อย่างไรเพื่อสร้างชัยชนะ นำเอกราช นำสันติภาพมาสู่ประเทศ"
ที่ทำงานของนายพลหวอเงวียนย๊าป |
หนึ่งในสิ่งของพิเศษในบังเกอร์ D67 คือโทรศัพท์ที่เรียกว่า “เครื่องหมายเลข 1” ซึ่งมีความพิเศษตรงที่เป็นโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับโทรศัพท์ของประธานโฮจิมินห์ ในบ้านไม้ยกพื้นในบริเวณทำเนียบประธานประเทศเพื่อให้ผู้บัญชาการสามารถรายงานสถานการณ์ให้แก่ประธานโฮจิมินห์ได้ทันทีเมื่อท่านโทรมาสอบถามหรือให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ บ้านแห่งนี้ หลังปี 1975 บังเกอร์แห่งนี้ไม่ได้ใช้งาน และตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา บ้านและบังเกอร์ D67 ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจ สำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของเวียดนาม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่.