ภาพภายในศูนย์ |
ในช่วงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา ดร.นิลนาจ ชัยธนาวิสุทธิ์ ประธานคณะทำงานศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์ทะเลเกาะสีชังโดยชุมชนเพื่อชุมชนยั่งยืนในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพฯได้ทุ่มเทให้แก่การวิจัยและประสานกิจกรรมต่างๆที่ศูนย์
“ภารกิจหลักของเราคือการฟื้นฟูทรัพยากรและระบบนิเวศชายฝั่งทะเลเพื่อผสมผสานให้มีกิจกรรมแบบการมีส่วนร่วม คือให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูทะเล”
ดร.นิลนาจ ชัยธนาวิสุทธิ์ ประธานคณะทำงานศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์ทะเลเกาะสีชัง |
จากการที่การจับปูม้าเป็นอาชีพหลักของชาวประมงที่นี่ ซึ่งจำนวนปูม้านับวันลดลง เมื่อกว่า 4 ปีก่อน ได้มีการก่อตั้งศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบกอำเภอเกาะสีชัง ตามความคิดริเริ่มของสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพฯ โดยวิธีการเข้าถึงของรูปแบบนี้คือชาวประมงไม่เพียงแต่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้เท่านั้น หากยังเข้าร่วมและมีส่วนร่วมต่อการขยายพันธุ์ปูม้า ดร.นิลนาจ ชัยธนาวิสุทธิ์ กล่าวว่า
“ถ้าชาวประมงได้ปูม้าที่มีไข่นอกกระดอง ก็จะมามอบให้แก่ธนาคาร ธนาคารเลี้ยงดูทั้งแม่และออกลูกเป็นตัวแล้วก็ปล่อยลูกลงสู่ทะเล คิดง่ายๆคือปูม้าที่มีไข่นอกกระดองคือเงินต้น เอามาให้เราเลี้ยงจนออกลูกและปล่อยลูกสู่ทะเลคือดอกเบี้ยในอนาคต”
ข้อมูลสถิติเกี่ยวกับจำนวนปูม้าที่ท้องนอกกระดอง ซึ่งชาวประมงบนเกาะนำไปฝากทางศูนย์ |
จนถึงปัจจุบัน ชาวประมงบนเกาะสีชังได้เอาปูม้าที่ท้องนอกกระดองมาให้แก่ทางศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์ทะเลเกาะสีชังจำนวน 4 หมื่นตัว แม่ปูตัวหนึ่งออกลูกประมาณ 1ล้านชีวิต โดยทางศูนย์ได้ปล่อยลงทะเลประมาณ 4 หมื่นล้านตัวแล้ว ทั้งนี้ กิจกรรมของศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์ทะเลเกาะสีชังได้อำนวยความสะดวกและทำให้การทำประมงของชาวบ้านมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“อันนี้เราเก็บสถิติว่า เราจะรู้ว่า ชาวประมง สถานะประมงของเขาดีขึ้นหรือแย่ลง แต่ที่เราทำมา ก่อนปี 61 เขาเลิกกันเกือบหมดเพราะจับปูไม่ได้ แต่พอเราได้ทำมา 2 ปี เขาเริ่มจับปูได้ ตอนนี้ คนที่เลิกไปกลับมาทำใหม่หมด คนที่ยังทำอยู่จับปูได้มากขึ้น”
สีเหลืองคือไข่อ่อน 5 วันก็จะเป็นไข่แก่คือสีดำ |
จากความเข้าใจและตระหนักถึงบทบาทของกิจกรรมขยายพันธุ์ปูม้า เวลาจับได้ปูม้าไข่นอกกระดอง ไต๋ลือ ชาวประมงที่ทำอาชีพจับปูม้าที่เกาะสีชังได้นำไปมอบให้แก่ศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์ทะเลเกาะสีชัง ปริมาณการจับปูม้านับวันเพิ่มขึ้นจาก 10 กิโลกรัมต่อวันเป็น 20 กิโลกรัมต่อวัน ไต๋ลือ เผยว่า
“ตอนนี้ปูม้าเยอะจริงๆเพื่อขายตลาด ปูตัวโตก็โลละ 400 ปูกลางก็ 300 ปูเล็ก 200 วันหนึ่งก็ประมาณ 2 โล ไม่เยอะ ปูไข่นอกกระดอง รายได้ก็เพิ่มขึ้นแล้ว เราจะร่วมมือกับทางจุฬา เราเห็นผลการทำประโยชน์ตรงนี้ เขาปล่อยไปแล้วก็เก็บเกี่ยวของเขาได้ ผลประโยชน์ตรงนี้ ดีขึ้นมากๆ”
ไต๋ลือ ชาวประมงที่ทำอาชีพจับปูม้าที่เกาะสีชัง |
ทั้งนี้ ชาวประมงทุกคนบนเกาะสีชังพร้อมร่วมมือกับทางศูนย์ฯในการขยายพันธุ์ปูม้าและสัตว์ทะเลเพื่อมีส่วนร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลและปรับปรุงอาชีพประมง ซึ่งทำให้ศูนย์แห่งนี้เป็นต้นแบบเพื่อขยายผลไปสู่อำเภอชายฝั่งของจังหวัดชลบุรี นางสาวศิญามนณ์ เทียนงาม เจ้าพนักงานประมงอำเภอเกาะสีชังให้ข้อสังเกตว่า
“ในส่วนของศูนย์เรียนรู้ตรงนี้ มันก็เป็นการต่อยอด ถ้าลองสังเกตดีๆ จุดเริ่มต้นของเกาะสีชัง ศูนย์เรียนรู้อันนี้ได้มีการพัฒนาไปที่สัตหีบบางเสร่ ศรีราชา อ่าวอุดม วัดโกมุท เมืองชลบุรี มันมีการต่อยอดไปยังศูนย์เรียนรู้ของอำเภออื่นๆในจังหวัดชลบุรีด้วย”
ถึงแม้เกาะสีชังอยู่ไม่ไกลตัวเมืองกรุงเทพฯและเมืองพัทยา แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งความพยายามของนักวิชาการ ทางการท้องถิ่นและการเข้าร่วมที่เข้มแข็งของชุมชนได้มีส่วนร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สำคัญเพื่อพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวและพัฒนาการทำประมงที่ยั่งยืนให้แก่ชาวประมงบนเกาะ.
คณะผู้สื่อข่าวจากวีโอวีศึกษาข้อมูลที่ศูนย์ |
ดร.นิลนาจ ชัยธนาวิสุทธิ์ช่วยบรรยายให้แก่คณะผู้สื่อข่าว |
ปูม้าที่จะได้รับการปล่อยลงทะเล |
การปล่อยปูม้าลงทะเล |
คณะผู้สื่อข่าวจากวีโอวีและกรมประชาสัมพันธ์ถ่ายภาพร่วมกับนายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา นายอำเภอเกาะสีชัง ดร.นิลนาจ ชัยธนาวิสุทธิ์ พนักงานจากการประมงอำเภอและไต๋ลือ ชาวประมงที่ทำอาชีพจับปูม้าที่เกาะสีชัง |
ภาพข้างนอกของศูนย์ |