 พิธีมอบรางวัล
|
นี่คือโอกาสให้ชาวเวียดนามและชาวอินโดนีเซียรุ่นแล้วรุ่นเล่าทบทวนประวัติศาสตร์และศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซีย โดยเฉพาะความเป็นมิตรสนิทระหว่างประธานโฮจิมินห์กับประธานาธิบดี ซูการ์โน รวมทั้งความรักและความเคารพของประชาชนทั้งสองประเทศต่อผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของสองประชาชาติ ตลอดจนเป็นโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้พบปะกับผู้ที่ได้รับรางวัลในการประกวดครั้งนี้
หลังจากเปิดการประกวดในระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม – 15 ธันวาคม คณะกรรมการจัดงานได้รับบทความที่มีคุณภาพนับร้อยบทจากผู้ฟังทุกเพศทุกวัยทั้งในและต่างประเทศ โดยผู้เข้าร่วมการประกวดที่มีอายุมากที่สุดคือ 83 ปีและมีอายุน้อยที่สุดคือ 21 ปี แต่ละบทต่างแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันและความคิดสร้างสรรค์ในการเขียนบท นายเหงียนเท้กี๋ ประธานสถานีวิทยุเวียดนามได้ประเมินว่า “มีบทความหลายบทเขียนด้วยลายมือนับสิบหน้ากระดาษพร้อมภาพประกอบที่หลากหลาย ซึ่งเป็นการพิสุจน์ให้เห็นถึงความรักประเทศอินโดนีเซีย ยกย่องสดุดีไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะความเป็นมิตรสนิทระหว่างประธาน โฮจิมินห์กับประธานาธิบดี ซูการ์โน”
จากการคัดเลือกอย่างรอบคอบ คณะกรรมการจัดงานได้มอบรางวัลพิเศษให้แก่นาย ตื่อแทงฟอง อายุ 40 ปีจากนครดานังและรางวัลที่ 1 ให้แก่คุณลุง ฟี้บ๊าควาด อายุ 73 ปีจากกรุงฮานอย โดยในบทความของคุณลุงฟี้บ๊าควาด ได้เล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ดังกล่าว โดยเขียนบทความด้วยมือ พร้อมมีเอกสารประกอบอันล้ำค่าต่างๆ เช่น บทกลอนที่ประธานโฮจิมินห์อ่านในการเยือนประเทศอินโดนีเซียและในการให้การต้อนรับประธานาธิบดีซูการ์โน ซึ่งทำให้คณะกรรมการตัดสินรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก คุณลุง ควาด เล่าเรื่องการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดี ซูการ์โนว่า “ตอนนั้น ผมกำลังเรียนมัธยมตอนต้น ผอ.โรงเรียนได้แจ้งให้เราทราบเกี่ยวกับการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดี ซูการ์โน โดยเพื่อนของผมได้รับเลือกให้ไปต้อนรับท่านซูการ์โนที่สนามบินยาเลิมแล้วก็มาเล่ารายละเอียดให้ผมฟัง ผมรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก และเมื่อปี 2001 ผมได้มีโอกาสไปปฏิบัติงานในประเทศอินโดนีเซียที่สวยงาม ซึ่งรู้สึกรักและอยู่ใกล้ชิดกับประเทศอินโดนีเซีย ในการประกวดครั้งนี้ ผมได้พยายามหาข้อมูลจากหนังสือ นิตยสารและเอกสารในหอสมุดแห่งชาติเพื่อทำบทความให้ดีที่สุด”
 มอบรางวัลพิเศษให้แก่นาย ตื่อแทงฟอง
|
ส่วนในบทความของคุณ ตื่อแทงฟอง ได้เรียบเรียงเอกสารที่ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับรากฐานของความสัมพันธ์มิตรภาพที่ใกล้ชิดระหว่างสองประชาชาติ “จากการอุทิศที่ยิ่งใหญ่ ภาพลักษณ์เกี่ยวกับผู้นำที่ยิ่งใหญ่สองท่านจะคงอยู่ในอนาคตประชาชาติตนและในความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองประเทศต่อไป ความเป็นมิตรสนิทระหว่างประธานโฮจิมินห์กับประธานาธิบดี ซูการ์โน ได้ข้ามหลักการทางการทูตทั่วไปและความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องพิเศษนี้เป็นตัวอย่างให้คนรุ่นใหม่ของทั้งสองประเทศเรียนรู้และปฏิบัติตาม ส่วนการประกวดในวันนี้มีความหมายสำคัญ ซึ่งช่วยให้คนรุ่นใหม่พวกเราสามารถแสดงความรักและความรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์ที่ผู้นำทั้งสองท่านได้พยายามตั้งรากฐานและธำนุบำรุง”
ในพิธีมอบรางวัล ศิลปินทั้งจากเวียดนามและอินโดนีเซียได้แสดงศิลปะที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของสองประชาชาติ พร้อมทั้งมีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายเพื่อรำลึกครบรอบ 60 ปีการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ดังกล่าว ณ โรงละครของสถานีวิทยุเวียดนาม.