 ผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้าน |
ในทัวร์ท่องเที่ยวค้นคว้าวิธีการทำมีดและสลักชื่อลงบนมีดที่หมู่บ้านดาสี ช่างตีเหล็กกำลังแนะนำวิธีการทำมีดให้แก่นักท่องเที่ยวบริเวณเตาเผาของโรงตีเหล็ก คุณ เหงวียนมายแอง นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิติศาสตร์ฮานอยได้ให้ข้อสังเกตว่า
“นี่คือครั้งแรกที่ดิฉันได้ชมการสาธิตวิธีทำมีดและกรรไกรที่หมู่บ้านดาสี ซึ่งอาชีพนี้มีความลำบากและต้องใช้ความอดทนสูง โดยต้องทำงานใกล้เตาเผาที่มีอุณหภูมิกว่า 1,000 องศาเซลเซียส”
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศหมู่บ้านตีเหล็กดาสี เช่น เตาเผาที่มีอุณหภูมิในระดับสูง กลิ่นน้ำมัน เสียงตีเหล็กและสามารถลองทำมีด เช่น ใช้ค้อนตีมีด การเจียรแต่งและการลับมีด คุณ Thomas นักท่องเที่ยวจากไอร์แลนด์และคุณ Alina นักท่องเที่ยวจากประเทศยูเครนได้กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า
“ประสบการณ์ในวันนี้น่าสนใจมากทั้งได้ชมการสาธิตและลองทำมีดเอง ช่างตีเหล็กเป็นกันเองมาก ผมจะประชาสัมพันธ์หมู่บ้านนี้ให้แก่เพื่อนและสมาชิกในครอบครัว”
“ดิฉันรู้สึกประทับใจมากกับหมู่บ้านตีเหล็กดาสี มีดของที่นี่สวยและคมมาก ดิฉันได้ซื้อมีดไว้ใช้ที่บ้าน”
 นักท่องเที่ยวลองทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ |
รูปแบบการท่องเที่ยวค้นคว้าอาชีพตีเหล็กที่โรงตีเหล็กได้รับการพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยบรรดาช่างตีเหล็กในหมู่บ้านได้เผยว่า กระบวนการทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทุกขั้นตอน เช่น การตีเหล็ก การเจียรแต่ง การลับและทำด้ามมีด ล้วนเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน ซึ่งปัจจุบัน หมู่บ้านดาสีกำลังเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศจำนวนมาก นาย จิ่งก๊วกเอิน รองผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารตลาดห่าดงได้เผยว่า
“การพัฒนาหมู่บ้านตีเหล็กผสานกับการท่องเที่ยวคือโอกาสเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ โดยรูปแบบหมู่บ้านหัตถกรรมและการท่องเที่ยวได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากเพื่อศึกษาค้นคว้าอาชีพตีเหล็ก ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของหมู่บ้าน อีกทั้งซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆเป็นของฝาก”
ทั้งนี้ รูปแบบการท่องเที่ยวนี้คือความคิดริเริ่มของคนรุ่นใหม่ของหมู่บ้านดาสี นาง หว่างบิ๊กเฝื่อง ผู้อำนวยการบริษัท มีดดาสี ได้เผยว่า
“เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาหมู่บ้าน พวกเราได้ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยวหมู่บ้าน ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น facebook, website และร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวเพื่อจัดทัวร์ท่องเที่ยวค้นคว้าหมู่บ้านตีเหล็กดาสี”
ความมุ่งมั่นและทุ่มเทของช่างตีเหล็กและความคล่องตัวของคนรุ่นใหม่ได้ช่วยให้หมู่บ้านตีเหล็กดาสียืนยันแบรนด์สินค้าและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านหัตถกรรมของกรุงฮานอย.