สถานประกอบการร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์ชนบทใหม่

Văn Hải - Tô Tuấn
Chia sẻ
(VOVworld) - ในโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ การเชื่อมโยง 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ภาครัฐ นักวิทยาศาสตร์ ผู้ประกอบการและเกษตรกรถือเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกร  โดยที่จังหวัดก่าเมาในเขตที่ราบลุ่มแม่นํ้าโขง มีรูปแบบความร่วมมือระหว่างสถานประกอบการกับเกษตรกรเพื่อมุ่งสู่การผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีส่วนร่วมผลักดันกระบวนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
(VOVworld)  - ในโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ การเชื่อมโยง 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ภาครัฐ นักวิทยาศาสตร์ ผู้ประกอบการและเกษตรกรถือเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกร  โดยที่จังหวัดก่าเมาในเขตที่ราบลุ่มแม่นํ้าโขง มีรูปแบบความร่วมมือระหว่างสถานประกอบการกับเกษตรกรเพื่อมุ่งสู่การผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีส่วนร่วมผลักดันกระบวนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

สถานประกอบการร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์ชนบทใหม่ - ảnh 1
ผลิตภัณฑ์และเครื่องหมายการค้าข้าวอินทรีย์ (ออร์แกนิค) ของนาย หวอมิงห์ขาย

นาย หวอมิงห์ขาย ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วนการค้าและการผลิตเหวียนฟู้ในจังหวัดก่าเมา เคยมีโอกาสเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆและเห็นว่า ผลิตภัณฑ์เวียดนามที่มีเครื่องหมายการค้าในตลาดโลกมีไม่มากนัก โดยเฉพาะข้าว  ดังนั้นเขาจึงมีแนวคิดที่จะสร้างผลิตภัณฑ์และเครื่องหมายการค้าข้าวอินทรีย์ (ออร์แกนิค) ผลิตภัณฑ์ข้าวที่ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ยากำจัดแมลง สารกำจัดวัชพืชและฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตในทุกขั้นตอน  นาย หวอมิงห์ขาย กล่าวว่า "เมื่อก่อนนี้ ผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนามไม่มีเครื่องหมายการค้า ผมเดินหน้าการผลิตข้าวอินทรีย์ที่ได้มาตรฐานของสหรัฐและยุโรปเพื่อสร้างเครื่องหมายการค้าระดับสากลให้แก่ผลิตภัณฑ์ข้าวของเวียดนาม"

ตามความเห็นของนาย หวอมิงห์ขาย  ผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกันโรคและเหมาะสำหรับผู้ป่วยหลายๆโรค  นาย หวอมิงห์ขาย ได้ตัดสินใจเลือกเขตอูมินห์หะ ตำบลแค๊งอาน อำเภออูมินห์ จังหวัดก่าเมาเพื่อทำการผลิตเนื่องจากเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า และที่ดินที่นี่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี เหมาะสำหรับปลูกข้าวอินทรีย์ตามมาตรฐานของกระทรวงการเกษตรสหรัฐและยุโรป 
ขั้นตอนการผลิตจากการปลูก การดูแลรักษาและการเก็บเกี่ยวต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานของการเกษตรแห่งสีเขียวที่ได้รับการรับรองจากสหรัฐและยุโรป  โดยเฉพาะการเลือกพันธุ์ข้าวที่ไม่เคยได้รับการปรับปรุงพันธุ์  นาย หวอมิงห์ขาย   เผยต่อไปว่า ปัจจุบัน เขามีพื้นที่ปลูกข้าวอินทรีย์ 3 ชนิดรวมพื้นที่กว่า 320 เฮกต้า ตามมาตรฐานสากลที่ได้รับการรับรองจากสถาบันตรวจรับรองมาตรฐานของเนเธอร์แลนด์ นาย หวอมิงห์ขาย  เล่าให้ฟังว่า "ฟาร์มของผมผลิตข้าวอินทรีย์ 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคมะเร็งและโรคหัวใจ  ผลิตภัณฑ์สัตว์นํ้าที่ส่งออกไปยังยุโรปและผักผลไม้เพื่อป้อนให้แก่ตลาดภายในประเทศ  ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต่างได้รับการรับรองจากสถาบันรับรองมาตรฐานเนเธอร์แลนด์และตามมาตรฐานของสหรัฐและยุโรป"
จนถึง ปี 2013 ผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ของนาย หวอมิงห์ขาย ได้รับการจำหน่ายในตลาดภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐ ยุโรป สิงคโปร์ และสาธารณรัฐเกาหลีภายใต้เครื่องหมายการค้า  ฮาวเสือที่มีความหมายว่า ข้าวมีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนน้ำนมแม่   นอกจากผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์แล้ว นาย หวอมิงห์ขาย ยังได้ปลูกพืชที่ช่วยดูดซึมสารส้มในดินควบคู่กับการเพาะเลี้ยงสัตว์นํ้า เฉพาะในปี 2014 ฟาร์มของนาย หวอมิงห์ขาย ได้จัดสรรค์ผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์กว่า 1 พันตัน รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากข้าว ผักและสัตว์นํ้าเพื่อป้อนให้แก่ตลาด  นาย โงแทงฟอง รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลแค๊งอานกล่าวว่า "รูปแบบฟาร์มเกษตรของนาย ขาย ที่ผลิตข้าวปลอดสารพิษ ถือว่ามีส่วนช่วยรักษาสุขภาพของประชาชน มีส่วนร่วมช่วยสร้างงานทำให้แก่แรงงานในท้องถิ่น อีกทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีเพื่อให้ประชาชนปฏิบัติตามและขยายผลต่อไป"
นาย โงแทงฟอง ยังเผยว่า แนวทางการเชื่อมโยง 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ภาครัฐ นักวิทยาศาสตร์ ผู้ประกอบการและเกษตรกรเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์การเกษตรใหม่ๆถือเป็นก้าวกระโดดในกระบวนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่  ตามแผนการที่วางไว้ จนถึงสิ้นปี 2015 ทางการจังหวัดก่าเมาจะมี 14 ตำบลขึ้นไปที่ได้มาตรฐานชนบทใหม่  ในขณะที่ตำบลหลายแห่งกำลังแสวงหาแนวทางการพัฒนาใหม่นั้น รูปแบบการผลิตเกษตรอินทรีย์ของนาย หวอมิงห์ขาย ถือเป็นความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการสร้างผลิตภัณฑ์การเกษตรที่มีเครื่องหมายการค้า เอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนและสร้างมูลค่าทางเศราฐกิจสูง ซึ่งรูปแบบนี้กำลังได้รับการขยายผลต่อไปเพื่อมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมต่อโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ./.

คำติชม