พัฒนารูปแบบการปลูกพืชผลไม้แซมในสวนกาแฟเพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

H Xíu; Vĩnh Phong
Chia sẻ
(VOVWORLD) - เพื่อรับมือความผันผวนอย่างซับซ้อนของราคาตลาดและสภาพอากาศ เกษตรกรหลายคนในจังหวัดดั๊กลักได้เพิ่มความหลากหลายด้วยการปลูกไม้ผลแซมในสวนกาแฟ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรายได้เท่านั้น หากยังเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องต้นกาแฟและลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติอีกด้วย
พัฒนารูปแบบการปลูกพืชผลไม้แซมในสวนกาแฟเพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ - ảnh 1นาย มายดิ่งเฝื่อง ในหมู่บ้านอานฟู้ ตำบล เออา เดริง อำเภอ กือ เมอการ์ จังหวัดดั๊กลัก มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกไม้ผลแซมในสวนกาแฟ 

นาย มายดิ่งเฝื่อง ในหมู่บ้านอานฟู้ ตำบล เออา เดริง อำเภอ กือ เมอการ์ จังหวัดดั๊กลักได้ปลูกและดูแลสวนกาแฟเป็นเวลาเกือบ 30 ปี ในหลายปีมานี้ เนื่องจากราคาขายเมล็ดกาแฟตกต่ำ ในขณะที่สวนกาแฟนับวันให้ผลผลิตลดลง นาย เฝื่อง จึงได้เลือกการปลูกกาแฟผสานกับการปลูกไม้ผลซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรายได้เท่านั้น หากยังทำให้ผลผลิตเมล็ดกาแฟมีความมั่นคงตั้งแต่ 2.5-3 ตันต่อเฮกตาร์ “นับตั้งแต่ปลูกทุเรียน พริกไทยและอะโวคาโด ผสมในสวนกาแฟก็ทำให้ผมมีรายได้มากขึ้น เพราะถ้าปลูกกาแฟเพียงอย่างเดียว ราคาขายไม่สูงนัก”

การปลูกไม้ผลแซมในสวนกาแฟคือวิธีการที่ครอบครัวนาย เยืองวันทาว ในหมู่บ้าน เอจาม อำเภอ กรงอานา ใช้เพื่อแก้ปัญหาราคาขายเมล็ดกาแฟตกต่ำ ถึงแม้รายได้จากการขายเมล็ดกาแฟซึ่งเป็นรายได้หลักจะลดลง แต่การปลูกทุเรียนและอะโวคาโดผสมในสวนกาแฟได้ช่วยให้ครอบครัวยังมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 300-400 ล้านด่งต่อปี “ในหลายปีมานี้ ราคาขายเมล็ดกาแฟและพริกไทยในเขตเตยเงวียนลดลง ผมมีพื้นที่ปลูกกาแฟ 4 เฮกตาร์ และได้เปลี่ยนพื้นที่ส่วนหนึ่งไปปลูกไม้ผลและพริกไทยเพื่อมีรายได้ที่มั่นคงแต่ไม่ทำให้ผลผลิตในสวนลดลง เช่นราคาขายเมล็ดกาแฟลดลง แต่ก็มีรายได้เสริมจากการขายผลไม้”

การปลูกไม้ผลแซมในสวนกาแฟคือทางเลือกที่เกษตรกรหลายคนในจังหวัดดั๊กลักปฏิบัติในเวลาที่ผ่านมา ไม้ผลที่เกษตรกรปลูกในสวนกาแฟส่วนใหญ่คือทุเรียน อะโวคาโด มะคาเดเมียและขี้เหล็ก (Senna siamea) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรายได้เท่านั้น หากต้นไม้สูงยังช่วยบังลมให้แก่สวนกาแฟอีกด้วย นี่คือเทคนิกที่มีประสิทธิภาพด้านเศรษฐกิจและรักษาสิ่งแวดล้อม ตามรายงานสถิติของสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดดั๊กลัก จนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ 1 ใน 5 ของพื้นที่ปลูกกาแฟ  2 แสนเฮกตาร์ของจังหวัดฯที่ใช้แนวทางนี้ โดยเฉพาะในเขตปลูกกาแฟของอำเภอ กือ เมอ การ์ กรงปั๊ก อำเภอเมือง บวนโห่และนครบวนมาถวด

พัฒนารูปแบบการปลูกพืชผลไม้แซมในสวนกาแฟเพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ - ảnh 2การปลูกไม้ผลแซมในสวนกาแฟเป็นทางเลือกที่เกษตรกรหลายคนในเขตเตยเงวียนปฏิบัติเพื่อปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ 

ดร. ฝ่ามกงชี้ จากสถาบันวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตรและป่าไม้เตยเงวียนเผยว่า ไม่เพียงแต่ที่จังหวัดดั๊กลัก ที่ปลูกไม้ผลที่หลากหลายในสวนปลูกกาแฟเท่านั้น หากนี่ยังเป็นแนวโน้มที่เกษตรกรหลายคนในเตยเงวียนเลือกปฏิบัติเพื่อมุ่งสู่การผลิตที่ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอีกด้วย ในรอบ 5 ปีมานี้ เขตเตยเงวียนมีพื้นที่ทำเกษตรที่ผสานกับการปลูกป่าถึงนับพันเฮกตาร์ “ผ่านโครงการนี้ ถ้าหากเกษตรกรปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ พวกเราจะจัดตั้งเขตปลูกพืชผสมที่ยั่งยืน ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดได้รับการพัฒนาเชิงพาณิชย์ตามแนวทางผลิตภัณฑ์ GAP หรือผลิตภัณฑ์อินทรีย์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก พวกเรากำลังสร้างระบบการเกษตรผสานกับการปลูกป่า นั่นคือต้นไม้ใหญ่ มีต้นกาแฟ มีต้นไม้ครอบคลุมพื้นที่ปลูกกาแฟ มีตุ้นทุนที่หลากหลายและช่องทางจำหน่ายที่สมดุล มิใช่การปลูกต้นพืชผสมในสวนกาแฟ”

ในหลายปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลกระทบในทางลบต่อการผลิตเกษตรและชีวิตของชาวสวนกาแฟในเตยเงวียน ดังนั้น การเพิ่มความหลากหลายของพืชในสวนกาแฟถือเป็นหนึ่งในมาตรการส่งเสริมประสิทธิภาพด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การผลิตเกษตรที่ยั่งยืนและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.

คำติชม