 รูปแบบการผลิตการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย |
ในโรงเรือนกางมุ้งบนทุ่งนาของตำบลเหงียดว่าน อำเภอเกี๊ยนถวี นครไฮฟอง ครอบครัวนายกาววันแองกำลังเตรียมเก็บเกี่ยวแคนตาลูปและดูแลต้นแตงไทย ซึ่งบริษัทนำเข้าส่งออกและการบริการดงนามอ๊าให้ความช่วยเหลือด้านการเงินในการทำโรงเรือนปลูกผลไม้ พันธุ์พืชและการจำหน่ายผลผลิตให้แก่ครอบครัวนาย วันแองในตลอด2ปีที่ผ่านมา การปลูกผลไม้ในโรงเรือนกางมุ้งมีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจสูงกว่ารูปแบบการปลูกแบบดั้งเดิมเพราะเกษตรกรสามารถควบคุมปัญหาโรคระบาด ไม่ต้องพึ่งพาดินฟ้าอากาศและผลผลิตมีคุณภาพสูง “ปัจจุบัน ผมกำลังปลูกแคนตาลูปในพื้นที่500ตารางเมตร โดยสามารถเก็บเกี่ยวได้3ฤดูกาลต่อปี ผลผลิตอยู่ที่1.5ตันต่อปี ซึ่งสร้างรายได้ที่มั่นคงดว่าการเพาะปลูกแบบดั้งเดิม รวมยอดเงินลงทุนอยู่ที่เกือบ1พันล้านด่ง ซึ่งพวกเราปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ใช้ขุยมะพร้าวในการปลูกแทนดินและใช้ระบบพ่นไอน้ำเพื่อรดน้ำและใส่ปุ๋ย”
ปัจจุบัน รูปแบบการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของบริษัทนำเข้าส่งออกและการบริการดงนามอ๊าได้รับการปฏิบัติในอำเภอต่างๆทั่วนครไฮฟอง ภายหลัง4ปีนับตั้งแต่ได้รับการจัดตั้ง ทางบริษัทฯได้ทำการวิจัย ลงทุนและรับเหมาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปลูกในโรงเรือนกระจกและโรงเรือนกางมุ้ง25แห่งรวมพื้นที่กว่า20เฮกตาร์ นาง เจิ่นแทงเหยียบ ผู้อำนวยการบริษัทฯได้เผยว่า“ในช่วงแรก ดิฉันลองปฏิบัติรูปแบบการปลูกผักและผลไม้ที่ใช้เทคโนโลยีสูงในสวนของครอบครังที่มีพื้นที่0.5เฮตาร์เพื่อเอาไว้ทานเองแต่หลังจากนั้นก็มีคนมาซื้อเยอะมาก ตั้งแต่วันนั้น ดิฉันได้เรียนรู้เพื่อขยายรูปแบบนี้เพื่อทำการประกอบธุรกิจ ภายหลังปฏิบัติมาเป็นเวลา3ปี พวกเราได้มีโรงเรือนกระจก25หลัง ซึ่งแต่ละหลังมีพื้นที่ประมาณ1000ตารางเมตร รวมยอดเงินลงทุนประมาณ800ล้านด่ง ใช้ระบบพ่นไอน้ำอัตโนมัติเพื่อรดน้ำและให้ปุ๋ย ซึ่งช่วยประยัดค่าใช้จ่ายและแรงงาน”
ในหลายปีที่ผ่านมา บริษัทส่งออกนำเข้าและการบริการดงนามอ๊า นครไฮฟองได้เปิดชั้นเรียนเกี่ยวกับความรู้ในการปลูก ช่วยเหลือการก่อสร้างโรงเรือนกางมุ้งให้แก่ครอบครัวและเกษตรกรในท้องถิ่น ซึ่งวิธีการทำดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากเกษตรกร จากรูปแบบการผลิตการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ครอบครัวต่างๆสามารถหลุดพ้นจากความยากจนและได้เป็นฝ่ายรุกในการลงทุนขยายโรงเรือนกระจกและโรงเรือนกางมุ้งเพื่อเพิ่มพื้นที่การผลิต นาง เจิ่นแทงเหยียบ ได้เผยว่า“ถ้าหากครอบครัวเกษตรกรอยากทำโรงเรือนกระจกเพื่อปลูกผลไม้ ทางบริษัทฯจะส่งเจ้าหน้าที่ไปแนะนำพันธุ์พืช เทคนิคการเพาะปลูกให้แก่เกษตรกรและรับจำหน่ายสินค้านอกจากนี้ ทางบริษัทฯจะเปิดร้านขายในนครไฮฟองและกรุงฮานอยเพื่อขายผักและผลไม้ปลอดสารพิษและขยายจำนวนโรงเรือนกระจก”
จุดเด่นของรูปแบบการปลูกผักที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงคือคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร ดังนั้น จำนวนลูกค้าก็เพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบัน ทางบริษัทฯจัดสรรผลิตภัณฑ์ให้แก่ครอบครัวกว่า5000ครอบครัว โรงแรม ร้านอาหารและซุปเปอร์มาเก็ตกว่า50แห่งในนครไฮฟองและกรุงฮานอย นาง เหงวียนถิกวี่ญชาวนครไฮฟองได้เผยว่า“ดิฉันรู้จักผลิตภัณฑ์ของบริษัทส่งออกนำเข้าและการบริการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อกว่า3ปีก่อนและแนะนำให้แก่ลูกค้าคนอื่นๆ ดิฉันมีความไว้ใจต่อผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯพาพวกเราไปดูเขตปลูกและเขตผลิต พวกเราอยากเลือกอาหารที่ปลอดภัยให้แก่ครอบครัว”
ปัจจุบัน ทางบริษัทฯกำลังปฏิบัติโครงการขยายพื้นที่การเพาะปลูกและสร้างเครื่องหมายการค้าสินค้าการเกษตรปลอดสารพิษของนครไฮฟอง ช่วยเหลือเกษตรกรลงทุน ปรับปรุงเทคโนโลยีการเพาะปลูกและเพิ่มความหลากหลายของผลผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดโลก.