ช๊วยหงึหรือกล้วยไข่ของหมู่บ้านด่ายหว่าง – ผลไม้ที่มีชื่อเสียง

Ngoc Anh/VOV5
Chia sẻ

(VOVWORLD) - หมู่บ้านหวูด่ายหรือหมู่บ้านด่ายหว่างในตำบลหว่าโห่ว อำเภอลี้เญิน จังหวัดห่านามไม่เพียงแต่รู้จักกันว่าเป็นบ้านเกิดของนักเขียนนามกาวเท่านั้น หากยังมีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นแหล่งปลูกกล้วยหงึหรือกล้วยไข่ ซึ่งเป็นผลไม้สำหรับถวายพระมหากษัตริย์ในอดีตอีกด้วย

ช๊วยหงึหรือกล้วยไข่ของหมู่บ้านด่ายหว่าง – ผลไม้ที่มีชื่อเสียง - ảnh 1ช๊วยหงึหรือกล้วยไข่ของหมู่บ้านด่ายหว่าง – ผลไม้ที่มีชื่อเสียง 

กล้วยหงึหรือกล้วยน้ำว้าคือผลไม้สำหรับถวายพระมหากษัตริย์ในสมัยราชวงศ์เจิ่นเมื่อศตวรรษที่ 13 มีตำนานว่า ในสมัยราชวงศ์เจิ่น ทุกปี กษัตริย์เจิ่นพร้อมคณะผู้ติดตามจะลงเรือจากพระราชวังทังลองหรือกรุงฮานอยในปัจจุบันไปยังพระราชวังเทียนเจื่องในจังหวัดนามดิ่งห์ในปัจจุบันเพื่อพบพระราชบิดา ครั้งหนึ่งเมื่อเสด็จถึงสามแยกต่วนเหวื่อง ขบวนเรือของกษัตริย์เจิ่นได้แวะพัก และชาวบ้านได้ออกมารับเสด็จและถวายอาหารพื้นเมือง แต่มีสามีภรรยายากจนคู่หนึ่งในหมู่บ้านด่ายหว่างเนื่องจากไม่มีอะไรถวายพระมหากษัตริย์จึงเศร้าใจมาก ในสวนของพวกเขามีกล้วย 1 เครือจึงตัดนำไปถวายกษัตริย์ ด้วยความประสงค์ว่า พระองค์จะทรงชอบพระทัย เมื่อทรงเสวยก็รู้สึกชอบกล้วยดังกล่าวเนื่องจากมีรสชาติหอมอร่อยจึงทรงพระราชทานรางวัลให้แก่ 2 สามีภรรยา และทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯสั่งให้ชาวบ้านด่ายหว่างปลูกกล้วยชนิดนี้ให้แพร่หลาย หลังจากนั้น กล้วยของหมู่บ้านด่ายหว่างจึงมีชื่อว่ากล้วยหงึซึ่งหมายถึงกล้วยที่ถวายกษัตริย์จนถึงปัจจุบัน

กล้วยไข่หงึด่ายหว่างมี 2 ชนิดคือกล้วยหงึโชวและช้วยหงึมิด โดยกล้วยหงึมิดมีลูกเล็กกว่า เท่ากับนิ้วก้อย 2 นิ้ว อร่อยกว่าและเนื้อกล้วยมีสีเหลืองเหมือนขนุน และเมื่อสุก เปลือกกล้วยจะมีจุดสีน้ำตาลแดง คุณ เจิ่นถิเงิน นายกสมาคมผู้ปลูกกล้วยหงึ หมู่บ้านด่ายหว่างได้เผยว่า “กล้วยหงึมีลูกเล็ก สวยและเปลือกบาง เมื่อสุกมีสีเหลืองเข้ม มีรสชาดหวานและหอม และไม่ต้องกลัวว่ากล้วยจะสุกเกินไป แม้จะเก็บไว้นาน 1 สัปดาห์ก็ยังหอมอร่อย กล้วยหงึที่ปลูกที่อื่นเนื้อจะไม่เหนียวและหอมเหมือนกล้วยหงึที่ปลูกในหมู่บ้านด่ายหว่าง”

ตามประสบการณ์ของชาวท้องถิ่น การปลูกกล้วยก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ถ้าสภาพอากาศ ฝนฟ้าตกตามฤดูกาลต้นกล้วยก็จะเติบโตงอกงาม ต้นสูง ไม่แข็งและหักง่าย ดังนั้นเมื่อต้นกล้วยออกเครือกล้วยต้องใช้เสาค้ำไว้เพื่อไม่ให้ต้นกล้วยหัก สวนปลูกกล้วยหงึมักจะปลูกในทิศตะวันออก-ตะวันตก เพื่อให้กล้วยมีสีเหลืองเมื่อสุกและหอมอร่อย นอกจากต้องให้ความสำคัญต่อวิธีการปลูกและดูแลแล้ว ขั้นตอนการบ่มก็สำคัญไม่แพ้กัน ครอบครัวใดที่มีสวนปลูกกล้วยต้องก่อสร้างเตาบ่มด้วยดิน ซึ่งจะสามารถเก็บกล้วยได้ตั้งแต่ 10-20 เครือ

ช๊วยหงึหรือกล้วยไข่ของหมู่บ้านด่ายหว่าง – ผลไม้ที่มีชื่อเสียง - ảnh 2กล้วยไข่ได้รับการปลูกในสถานที่หลายแห่ง แต่ในเวียดนามมีแต่ที่ด่ายหว่างเท่านั้นที่มีสภาพอากาศและที่ดินเหมาะสำหรับการปลูกกล้วยหงึเพื่อให้กล้วยอร่อยที่สุด 

กล้วยหงึได้รับการปลูกในสถานที่หลายแห่ง แต่ในเวียดนามมีแต่ที่ด่ายหว่างเท่านั้นที่มีสภาพอากาศและที่ดินเหมาะสำหรับการปลูกกล้วยที่อร่อยที่สุด นาย เหงียนวันเติม ผู้สูงอายุในหมู่บ้านด่ายหว่าง เล่าให้ฟังว่า “กล้วยหงึจะอร่อยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและดิน ซึ่งที่เวียดนาม ไม่มีสถานที่ใดที่มีดินดีเหมือนที่หมู่บ้านด่ายหว่าง กอกล้วยควรมีต้นหลัก 1 ต้นและมีหน่อกล้วยไม่เกิน 2 ต้น เพื่อให้ได้ผลผลิตตลอดทั้งปีและมีรสชาติอร่อย แต่ละต้นออกเครือกล้วย 1 เครือ ต้นกล้วยมีความสูงเฉลี่ย 4 เมตร และแต่ละเครือมี 7-8 หวี”

กล้วยหงึด่ายหว่างได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนบางฤดูไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในช่วงใกล้ตรุษเต๊ต พ่อค้าจากทุกสารทิศจะเดินทางมาหมู่บ้านด่ายหว่าวเพื่อเหมาซื้อ เครือกล้วยหงึ 1 เครือสามารถขายได้เกือบ 1 ล้านด่ง นาง เจิ่นถิเงิน นายกสมาคมผู้ปลูกกล้วยหงึด่ายหว่างเผยว่า “ตลาดจำหน่ายกล้วยหงึด่ายหว่างหลักๆคือกรุงฮานอย เมืองฝูลี้ จังหวัดห่านาม จังหวัดนามดิ่งห์ นครไฮฟอง จังหวัดกว๋างนิงห์ จังหวัดท้ายบิ่ง นครโฮจิมินห์และส่งออกไปต่างประเทศ ชาวเวียดนามที่อาศัยในเยอรมนี ญี่ปุ่น มาเลเซียและจีนก็มาที่นี่ซื้อกลับประเทศเป็นของฝาก กล้วยหงึด่ายหว่างได้รับใบรับรองเครื่องหมายการค้าและสิทธิบัติร ในหมู่บ้านมีกว่า 1 พันครอบครัวปลูกกล้วยหงึ”

กล้วยหงึด่ายหว่างติดท๊อป 50 ผลไม้ที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม เนื่องจากมีสีสัน รูปร่างสวยงามและมีคุณภาพดี ดังนั้นกล้วยหงึด่ายหว่างจึงกลายเป็นของฝากติดไม้ติดมือ โดยมีแถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ชาวบ้านด่ายหว่างมีความภาคภูมิใจในผลไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น และเมื่อมีแขกมาเยี่ยมบ้าน พวกเขาก็มักจะเชิญทานกล้วยหงึ. 

คำติชม