การฟื้นฟูบ้านrôngเปิดทางให้แก่การระดมประชาชนเข้าร่วมการพัฒนาชนบทใหม่

Bùi Hằng VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) – จังหวัดKon Tumมีหมู่บ้านชนกลุ่มน้อย๕๘๘แห่ง แม้ว่าชีวิตยังประสบความลำบาก แต่ในหลายปีที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูบ้านrôngได้๕๐๕หลังและความสำเร็จในการฟื้นฟู บ้านrôngได้เปิดทางให้ทางการจังหวัดระดมประชาชนเข้าร่วมการพัฒนาชนบทใหม่

(VOVworld) – จังหวัดKon Tumมีหมู่บ้านชนกลุ่มน้อย๕๘๘แห่ง แม้ว่าชีวิตยังประสบความลำบาก แต่ในหลายปีที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูบ้านrôngได้๕๐๕หลังและความสำเร็จในการฟื้นฟูบ้านrôngได้เปิดทางให้ทางการจังหวัดระดมประชาชนเข้าร่วมการพัฒนาชนบทใหม่

การฟื้นฟูบ้านrôngเปิดทางให้แก่การระดมประชาชนเข้าร่วมการพัฒนาชนบทใหม่ - ảnh 1
บ้านrôngในเขตที่ราบสูงTây Nguyên (photo:Internet )

(VOVworld) – สำหรับชนกลุ่มน้อยเผ่าXê đăng Banar Giẻ Triêng Gia Rai B’râuและRơ mâm  บ้านrôngเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ พลังที่เข้มแข็งและความมุ่งมั่น และยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลพื้นบ้าน การประชุมและกิจรรมบันเทิงของชุมชนซึ่งตามประเพณี หมู่บ้านทุกแห่งจะต้องมีบ้านrông นักดนตรีA Đủ รองหัวหน้าคณะศิลปะจังหวัดKon Tum ชนกลุ่มน้อยเผ่าBanar กล่าวว่า “บ้านrông เป็นจิตวิญญาณของหมู่บ้านและเป็นสถานที่รวบตัวของชาวบ้าน ถ้าเกิดปัญหาอะไรในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย ผู้ใหญ่บ้านก็จะแจ้งให้ลูกบ้านได้รับทราบจากบ้านrông และก็เป็นสถานที่ที่หนุ่มๆใช้โชว์ทักษะความสามารถของตน”   จากหลายเหตุผล ในช่วงปี๑๙๙๐ถึงปี๒๐๐๐ บ้านrông ในหมู่บ้านหลายแห่งของจังหวัด Kon Tumได้ถูกปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรม แต่จากการปฏิบัติแนวทางพัฒนาชนบทใหม่ตามมติของคณะกรรมการกลางพรรคอมมิวนิสต์ ทางการจังหวัด Kon Tumได้ให้ความสำคัญต่อการฟื้นฟูบ้านrôngซึ่งเป็นสถานที่จัดเทศกาลพื้นบ้าน และขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆเพื่ออนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่า นายA Huya อยู่ที่หมู่บ้าน Plei ĐônนครKon Tum เผยว่า ในการสร้างบ้านrông ที่สูงตั้งแต่๑๒ถึง๑๘เมตรในพื้นที่๖๐ตารางเมตรนั้นต้องใช้ไม้นับสิบลูกบาศ์กเมตรและใช้เวลาก่อสร้างหลายปี “การนำวัสดุเพื่อก่อสร้างบ้านrôngมายังที่นี่มีความลำบากมากเนื่องจากชาวบ้านต้องเดินเท้าเป็นระยะทาง๔๐ถึง๕๐กิโลเมตรถึงจะถึงป่าและต้องอยู่ในป่า๕ถึง ๖วันจึงจะสามารถตัดไม้ได้เพียงพอแก่การสร้างบ้าน rông ต่อจากนั้นก็ต้องลากไม้จากป่าไปยังถนนเพื่อขนส่งกลับหมู่บ้าน”   แม้จะลำบากเช่นนี้แต่เนื่องจากสอดคล้องกับความรู้สึกนึกคิดและความปรารถนาของตน ชาวบ้านจึงให้การสนับสนุนแนวทางฟื้นฟูบ้านrôngอย่างเต็มที่   ปัจจุบัน ทั้งจังหวัดKon Tumมีบ้าน rông ทั้งหมด๕๐๕หลังซึ่งมากกว่าเมื่อปี๒๐๐ที่มี๒๖๕หลัง แถมชาวบ้านที่นี่ก็ออกแบบ หาวัสดุก่อสร้างและลงมือสร้างบ้าน rông ด้วยตนเอง นางBùi Thị Vân ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดKon Tum กล่าวว่า “ดิฉันเห็นว่า การสร้างบ้านrôngในเขตที่ราบสูงTây Nguyênเป็นแนวคิดที่ดีมากเพราะชาวบ้านร่วมกันสร้างเองโดยเสียค่าก่อสร้างถูกสุดคือ๕๐ล้านด่งและมากที่สุดคือ๓๘๐ล้านด่ง และบ้านแต่ละหลังมีมูลค่าประมาณ๓หมื่นล้านถึง๔หมื่นล้านด่ง”  
ความสำเร็จของขบวนการฟื้นฟูบ้านrông ได้เปิดทางให้ทางการจังหวัดKon Tumระดมประชาชนเข้าร่วมการพัฒนาชนบทใหม่ ปัจจุบันมีตำบล๘๑แห่งที่กำลังปฏิบัติการพัฒนาชนบทใหม่ซึ่งในนั้นมีตำบลหลายแห่งที่อยู่ในอำเภอKon Ploong Tu Mơ rông Đắc Gleiซึ่งทั้งหมดเป็นชนกลุ่มน้อยแต่ด้วยชีวิตที่ยังมีความยากลำบากทำให้ประชาชนที่นี่ยังไม่เข้าร่วมอย่างแข็งขัน นายTrần Vĩnhรองผู้อำนวยการสำนักงานการสื่อสารและประชาสัมพันธ์จังหวัด Kon Tum ที่ได้ทำการศึกษาวิจัยเกียรติประวัติวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆมานับสิบปีได้กล่าวว่า สาเหตุที่ประชาชนยังไม่เข้าร่วมอย่างแข็งขันคือยังไม่ตระหนักถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่อยู่ในกิจการแต่ละแห่ง นายTrần Vĩnhกล่าวว่า “ต้องสอดแทรกปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเอกลักษณ์วัฒนธรรมจึงจะสามารถดึงดูดให้ประชาชนเข้าร่วมได้เพราะถ้ามีแต่ประโยชน์จากการใช้สอย ประชาชนก็จะยังคงไม่เข้าใจและจะไม่สนับสนุนอย่างเต็มที่ ดังนั้น การฟื้นฟูบ้าน rôngต้องคิดถึงโครงการสวัสดิการสังคมอื่นๆที่มีเอกลัษณ์ที่โดดเด่นของชนเผ่าซึ่งจะทำให้ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้าง” 
แต่ไหนแต่ไรมา บ้านrông ถือเป็นหัวใจของหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆในเขตที่ราบสูงTây NguyênโดยเฉพาะจังหวัดKon Tum ดังนั้นการฟื้นฟูบ้านrông จึงเป็นการส่งเสริมกิจกรรมที่มีมาช้านานของชนเผ่า มีส่วนร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองของชนเผ่าและเปิดทางให้ทางการจังหวัดKon Tumระดมประชาชนเข้าร่วมการพัฒนาชนบทใหม่  ./.

คำติชม