เอกอัครราชทูต เลถิเตวี๊ยดมาย หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติ องค์การการค้าโลกและองค์การระหว่างประเทศในเมืองเจนีวา (Photo: TTXVN)

คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยเอกอัครราชทูต เลถิเตวี๊ยดมาย หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติ องค์การการค้าโลกและองค์การระหว่างประเทศในเมืองเจนีวาได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ในการกล่าวปราศรัยในการสนทนากับข้าหลวงใหญ่ของสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน  เอกอัครราชทูต เลถิเตวี๊ยดมายได้ยืนยันว่า แนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน สนับสนุนกลไกสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ทำการสนทนาเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนในเชิงสร้างสรรค์และจริงจัง พร้อมทั้งย้ำว่า สิทธิมนุษยชนไม่ควรถูกนำมาเป็นปัญหาการเมืองเพื่อแทรกแซงกิจการภายในของประเทศที่มีอธิปไตยหรือถูกใช้เพื่อตำหนิประเทศใดประเทศหนึ่ง อีกทั้งแจ้งว่า ในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เวียดนามได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อค้ำประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน

ในกรอบการประชุมสภาสิทธิมนุษยชนครั้งที่ 47 หนึ่งในหัวข้อหลักของเวียดนามคือสิทธิมนุษยชนในการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ คาดว่า เวียดนามจะจัดการประชุมหารือเกี่ยวกับสิทธิของผู้สูงอายุในสภาวการณ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ในนามกลุ่มหลักประกอบด้วยบังกลาเทศ ฟิลิปปินส์และเวียดนาม เวียดนามจะแนะนำร่างมติปี 2021เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสิทธิมนุษยชน โดยเน้นถึงกลุ่มเสี่ยง  ซึ่งเป็นมติที่เวียดนามและกลุ่มหลักจัดทำเมื่อปี 2014 และเสนอให้สภาสิทธิมนุษยชนพิจารณาอนุมัติ โดยแต่ละปีจะเน้นถึงหัวข้อต่างๆ เช่น สิทธิของเด็ก สิทธิของสตรีและสิทธิผู้อพยพ เป็นต้นในสภาวการณ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.