นาย บุ่ยแทงเซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม (VNA) |
ในการกล่าวปราศรัยในกิจกรรมฉลองครบรอบ 30 ปีการที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียนและ 58 ปีการก่อตั้งอาเซียน ณ กรุงฮานอย เมื่อค่ำวันที่ 28 ที่ผ่านมา นาย บุ่ยแทงเซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้กล่าวว่า
“เวียดนามขอแสดงความยินดีเกี่ยวกับความตกลงที่ได้บรรลุระหว่างกัมพูชาและไทย โดยเฉพาะการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข อันเป็นก้าวเดินแรกที่สำคัญเพื่อมุ่งสู่การลดความตึงเครียด ฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง”
ก่อนหน้านั้น หลังการประชุมฉุกเฉินที่มีนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย Anwar Ibrahim ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของอาเซียนเข้าร่วม ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ไทยและกัมพูชาได้ตกลงฟื้นฟูการสนทนาโดยตรงในระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหม พร้อมทั้งจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำกองทัพในเขตชายแดน ในการกล่าวปราศรัยต่อสื่อมวลชนหลังการประชุมดังกล่าว นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ได้ยืนยันว่า
“หวังว่า มาตรการนี้จะสร้างพื้นฐานให้แก่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีและลดความตึงเครียด ผมขอขอบคุณท่านายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่มีความคิดริดเริ่มที่จำเป็นและเร่งด่วนนี้”
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุนมาเนต (ซ้าย) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย Anwar Ibrahimและรักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ภูมิธรรม เวชยชัย ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อบ่ายวันที่ 28 กรกฎาคม (Mohd Rasfan/Pool via REUTERS) |
ในขณะเดียวกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทยได้ย้ำว่า การหารือเพียงเน้นถึงการหยุดยิงเท่านั้น ไม่ระบุเกี่ยวกับการพิพาททางชายแดนหรือดินแดน ช่วยให้ชีวิตประชาชนกลับเข้าสู่ภาวะปกติและมีส่วนร่วมค้ำประกันเสถียรภาพของความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย – กัมพูชา
ในวันเดียวกัน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ได้แสดงความยินดีต่อข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าว โดยเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายให้ความเคารพข้อตกลงหยุดยิงและสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อและบรรลุสันติภาพที่ยาวนาน
ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ Marco Rubio กล่าวว่า สหรัฐขอแสดงความยินดีต่อข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าว โดยให้คำมั่นจะเข้าร่วมกระบวนการที่สหรัฐและมาเลเซียสนับสนุนต่อไปเพื่อยุติการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา.