เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสิงคโปร์ มายเฟือกหยุง (ภาพจาก Lê Dương/TTXVN) |
วัตถุปรสงค์ของการเดินทางไปเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 16-20 ตุลาคมของประธานาธิบดี ฮาลีมะฮ์ ยาคอบ และสามี คือเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีพร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งมากขึ้น นี่คือคำยืนยันของเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสิงคโปร์ มายเฟือกหยุง ในการให้สัมภาษณ์ต่อนักข่าวของสำนักข่าวเวียดนามในสิงคโปร์ โดยเอกอัครราชทูต มายเฟือกหยุง ได้ย้ำว่า การเดินทางไปเยือนต่างๆ นั้น ต่างได้มีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีงามและแน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงการส่งเสริมด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งทำให้ประเทศสิงคโปร์กลายเป็นผู้ลงทุนต่างชาติอันดับหนึ่งในเวียดนามต่อเนื่องหลายปีติดต่อกัน พร้อมการเติบโตด้านการค้าแบบทวิภาคีในระดัยที่สูงมาก ด้วยยอดเงินลลงทุนจนถึงเดือนสิงหาคม 2022 รวมกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่ราว 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูต มายเฟือกหยุง ได้เผยว่า ในการเดินทางมาเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดีสิงคโปร์ ฮาลีมะฮ์ ยาคอบ ทั้งสองประเทศจะผลักดันความร่วมมือในด้านใหม่ๆ เช่น พลังงานหมุนเวียน โดยหวังว่า จะมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือในด้านนี้ระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์หลายฉบับ เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้กับความสัมพันธ์ทวิภี เนื่องจากเวียดนามเป็รประเทศที่มีศักยภาพด้านพลังงานหมุนเวียนมากมาย ส่วนสิงคโปร์กำลังมีความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มสูงขึ้น.