ภาพการแถลงข่าว |
ในการเจรจาระหว่างสองฝ่ายที่มีขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคม ณ กรุงฮานอย ผู้แทนระดับสุงของอียูได้ยืนยันว่า อียูถือเวียดนามเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญชั้นนำในภูมิภาคและกำลังดำเนินนโยบายยุทธศาสตร์ต่างๆเพื่อขยายความร่วมมือให้กว้างลึกมากขึ้นกับเวียดนามรวมทั้งกับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตลอดจนร่วมมือแก้ไขความท้าทายระดับโลกต่างๆ อียูจะร่วมมือกับเวียดนามในการดำเนินกลไกการสนทนาที่กำลังมีอยู่เพื่อผลักดันความร่วมมือในทุกด้าน สนับสนุนเวียดนามในการปฏิบัติเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ผ่านการปฏิบัติJETP อียูก็หวังว่าจะผลักดันความร่วมมือกับเวียดนามในกรอบยุทธศาสตร์และข้อคิดริเริ่มต่างๆในภูมิภาค
ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามบุ่ยแทงเซินย้ำว่าสองฝ่ายควรประสานความร่วมมือให้แน่นแฟ้นในการปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียู (EVFTA) อย่างมีประสิทธิภาพ เสนอให้อียูพิจารณายกเลิก "ใบเหลือง"ต่อสัตว์น้ำของเวียดนาม ผลักดันให้ประเทศสมาชิกอียูให้สัตยบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-อียู (EVIPA) ตลอดจนธำรงการช่วยเหลือแหล่งเงินโอดีเอให้แก่เวียดนามต่อไป เวียดนามพร้อมเป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือระหว่างอียูกับภูมิภาค รวมทั้งผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-อียู
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องผลักดันใ้ความร่วมมือพัฒนาไปสู่ระยะใหม่ที่คล่องตัวและรอบด้านมากขึ้น ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องลดความตึงเครียดในจุดร้อนต่างๆ แก้ไขข้อขัดแย้งด้วยสันติวิธีผ่านการเจรจา อียูสนับสนุนจุดยืนของเวียดนามและอาเซียนเกี่ยวกับการเดินเรือและการบินอย่างเสรี แก้ไขปัญหาอย่างสันติภบนพื้นฐานของกฎหมายสากลรวมทั้ง UNCLOS 1982 ตลอดจนเร่งดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและมีประสิทธิภาพ.