10 จังหวัดและนคร ได้แก่ หว่าบิ่ง เดียนเบียน ห่ายาง บิ่งเยือง ฮึงเอียน บั๊กยาง ยาลาย บั๊กนิง กว๋างนิงห์และนครโฮจิมินห์ไม่พบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ภายในชุมชนเป็นเวลา 53 วันติดต่อกัน ส่วนกรุงฮานอยไม่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนเป็นเวลา 50 วันติดต่อกัน
สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนถึงบ่ายวันที่ 6 เมษายน ได้ทำการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเป้าหมายไปแล้วเกือบ 5 หมื่น 4 พันคน
วันที่ 7 เมษายน หายเยืองได้ปิดโรงพยาบาลสนามแห่งสุดท้ายในเมืองชี้ลิง ซึ่งใช้สำหรับการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รวม 193 รายตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ จนถึงขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อเหลือ 21 รายที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งนี้ โดยจะทำการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนจังหวัดหายเยือง.
ส่วนตามรายงานของเว็บไซต์ worldometers.info จนถึงบ่ายวันที่ 6 เมษายน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 133 ล้านรายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 2.9 ล้านราย สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด รองลงมาคือบราซิลและอินเดีย
ที่เอเชีย เมื่อวันที่ 7 เมษายน สาธารณรัฐเกาหลีได้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 668 รายซึ่งเป็นการพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศนี้อยู่ที่เกือบ 107,000 รายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,750 ราย
สำหรับปัญหาวัคซีน เมื่อวันที่ 6 เมษายน มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษได้ประกาศระงับการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในระดับคลีนิก ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้พัฒนาร่วมกับบริษัท AstraZeneca ในอาสาสมัครประมาณ 300 คนที่มีอายุ 6 ถึง 17 ปี
ในขณะเดียวกัน ทางการของประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดนได้เผยว่า จะไม่สนับสนุนการใช้ "วัคซีนพาสปอร์ต " เพื่อหลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติ.