ภาพการเจรจา

ทั้งสองฝ่ายยืนยันขยายความร่วมมือในหลายด้าน อำนวยความสะดวกให้แก่สถานผประกอบการในการลงทุนและประกอบธุรกิจในแต่ละประเทศ เวียดนามมีความประสงค์ว่า เอสโตเนียจะเป็นสะพานเชื่อมให้แก่การส่งเสริมสินค้าเวียดนามเจาะตลาดยุโรปเหนือและอียู เห็นพ้องขยายการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม ประสานงานอย่างใกล้ชิด ทาบทามความคิดเห็นและสนับสนุนกันในปัญหาในภูมิภาคและโลก ความสามัคคีและให้ความเคารพกฎหมายสากล กฎบัตรสหประชาชาติ สนับสนุนเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออกบนพื้นฐานให้ความเคารพผลประโยชน์ของประเทศริมฝั่งทะเล สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานกฎหมายสากล ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลัง

หลังการเจรจา ทั้งสองฝ่ายได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามและแลกเปลี่ยนบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกับกระทรวงการต่างประเทศเอสโตเนีย การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลและเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเวียดนามกับกระทรวงยุติธรรมและเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลเอสโตเนีย

ส่วนในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนนายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้งได้เผยว่า การลงนามความตกลงด้านวิทยาศาสตรืเทคโนโลยี นวัตกรรม การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลจะสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาวิทยาศาสตรืเทคโนโลยี นวัตกรรม การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลของเวียดนาม

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เก้าปราศรัยในฟอรั่ม

ในบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม - เอสโตเนีย โดยกล่าวย้ำว่า ในการเจรจากับนายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องในเนื้อหาต่างๆ เพื่อขยายความร่วมมือทวิภาคี เช่น ขยายความร่วมมืออย่างกว้างลึกมากขึ้นในด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นจุดแข็งของเอสโตเนียและเวียดนามมีความต้องการ พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลเวียดนามส่งเสริมให้ชมรมสถานประกอบการของสองประเทศเชื่อมโยงกัน โดยเวียดนามจะเป็นสะพานเชื่อมให้แก่สถานประกอบการเอสโตเนียเข้าตลาดอาเซียนและเอสโตเนียเป็นประตูให้เวียดนามเข้าตลาดอียู.