เลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ผู้นำที่เป็นแกนหลักและนักทฤษฎีที่ยอดเยี่ยม

ด้วยอายุครบ 80 ปีและมีถึงเกือบ 57 ปีเป็นสมาชิกพรรค มีเวลา 13 ปีดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรค กว่า 2 ปีที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานประเทศและกว่า 5 ปีดำรงตำแหน่งประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม  ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ถือเป็นผู้นำที่เป็นแกนหลักสำคัญของเวียดนาม ท่านได้ร่วมกับคณะกรรมการกลางพรรค รัฐบาล ชี้นำทั้งองค์กรพรรค มวลประชาชนและทั้งกองทัพปฏิบัติภารกิจต่างๆในการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศจนประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากมาย ในขณะเดียวกันท่านก็เป็นนักคิดแห่งลัทธิคอมมิวนิสต์ด้วยความรู้ทางทฤษฎีอันลึกซึ้ง

นับตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเมื่อเดือนธันวาคมปี 1967  ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู่จ่อง ได้อุทิศทั้งชีวิตให้กับภารกิจการสร้างสรรค์พรรค โดยใน 29 ปีที่ทำงานในนิตยสารคอมมิวนิสต์ซึ่งเป็นสำนักงานวิจัยเผยแพร่ทฤษฏีการเมืองของพรรคตลอดจนเมื่อเข้าทำงานในหน่วยงานอื่นๆและรับดำรงตำแหน่งต่างๆในระดับสูงท่านก็ยังไม่เคยละทิ้งงานวิจัยทางทฤษฏี เพราะท่านตระหนักดีว่า ธงแห่งทฤษฏีของพรรคจะช่วยกำหนดวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ของทั้งพรรคและประชาชาติเวียดนาม ท่านได้ชี้นำให้ทั้งพรรค มวลประชาชนและทั้งกองทัพยืนหยัดและประยุกต์ใช้ลัทธิมาร์คเลนินกับแนวคิดโฮจิมินห์อย่างสร้างสรรค์ ต้องยืนหยัดเป้าหมายเอกราชประชาชาติและสังคมนิยม ยืนหยัดปฏิบัติแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรค ค้ำประกันการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ-ประชาชาติเพื่อสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิให้ยั่งยืนถาวร นั่นคือหลักการและพื้นฐานที่มั่นคงของพรรคซึ่งมีความหมายชี้ขาดต่อการคงอยู่ของระบอบและของชาติ รศ.ดร.เหงวียนจ๋องฟุก อดีตหัวหน้าสถาบันประวัติศาสตร์ของพรรคแห่งสถาบันการเมืองรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์กล่าวว่า "เลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง เป็นผู้นำที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างมาก ท่านยังเป็นนักทฤษฏี นักวิทยาศาสตร์ที่ทุ่มเทสุดหัวใจ นับตั้งแต่ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคในสมัชชาใหญ่พรรคทั่วประเทศสมัยที่11นั้นจิตใจแห่งความซื่อสัตย์และมุ่งมั่นยืนหยัดในลัทธิมาร์ค-เลนิน แนวคิดโฮจิมินห์และกระบวนการพัฒนาการปฏิวัติเวียดนามควบคู่กับเอกราชประชาชาติและสังคมนิยม ซึ่งเป็นเส้นทางที่พรรค ประธานโฮจิมินห์ได้เลือกไว้ตั้งแต่ปี1930ก็ได้สะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดในทุกภารกิจของท่าน" 

ในฐานะเป็นเลขาธิการใหญ่พรรค ท่านได้แสดงบทบาทของผู้นำแกนหลักและร่วมกับคณะกรรมกรกลางพรรคฯ กรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรคฯสร้างความสามัคคี ความเป็นเอกฉันท์ด้านแนวคิดและการปฏิบัติในองค์กรพรรค ด้วยความตระหนักว่า ความสามัคคีคือคุณค่าหลัก กลุ่มมหาสามัคคีชนทั้งชาติคือแนวทางยุทธศาสตร์ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างพลังที่แข็งแกร่ง เป็นพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่เพื่อสร้างชัยชนะที่รุ่งโรจน์ของประชาชาติ นักข่าวยีเล อดีตรองบรรณาธิการใหญ่นิตยสารคอมมิวนิสต์ได้ยืนยันว่า 

"ท่านเหงวียนฟู้จ่องได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากพรรคและประชาชนด้วยการมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ 3 ตำแหน่งคือ เลขาธิการใหญ่พรรค 3 สมัย รวมทั้งเป็นประธานประเทศและประธานสภาแห่งชาติ นอกจากนั้นท่านยังเป็นนักทฤษฏีพิเศษยอดเยี่ยมในยุคเปลี่ยนแปลงใหม่ซึ่งสานต่อจากท่านเลขาธิการใหญ่พรรคเหงวียนวันลินห์มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งภายหลัง 40 ปี ท่านได้สร้างสรรค์ระบบทฤษฏียุคเปลี่ยนแปลงใหม่ด้วยปัจจัยที่เป็นแกนหลักคือทฤษฏีเหงวียนฟู้จ่อง"

ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ท่านเหงวียนฟู้จ่องยังอุทิศสุดหัวใจให้แก่ภารกิจการปฏิวัติของพรรคและประชาชาติเพื่อสานต่อและพัฒนาศักยภาพ สถานะและบทบาทชื่อเสียงบนเวทีโลกของเวียดนาม./.