เปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการและการประชุมเตรียมความพร้อมต่างๆให้แก่การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37

Chia sẻ
(VOVWORLD) -เช้าวันที่ 10 พฤศจิกายน ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ภายใต้อำนวยการของนาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม โดยมีรัฐมนตรีบรรดาประเทศอาเซียนเข้าร่วม 
เปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการและการประชุมเตรียมความพร้อมต่างๆให้แก่การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 - ảnh 1 นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม (Photo VGP)

นี่คือการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งแรกในกรอบกิจกรรมการประชุมเตรียมความพร้อมต่างๆก่อนการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายน

ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้ย้ำว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ยังคงมีขึ้นอย่างรุนแรง อาเซียนกำลังรับมือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ต่างๆ ดังนั้นบรรดาประเทศอาเซียนต้องยืนหยัดเป้าหมายสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน 2025 หวังว่า บรรดาประเทศอาเซียนจะสนับสนุนและร่วมมือกันในการผลักดันผลงานและความคิดริเริ่มต่างๆต่อไป รวมทั้งผลงานและความคิดริเริ่มของปีนี้บนเจตนารมณ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว

ต่อจากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ามบิ่งมิงห์ ได้เป็นประธานการประชุมสภาการเมือง – ความมั่นคงอาเซียนครั้งที่ 22 เพื่อพิจารณารายงานเกี่ยวกับเสาหลักต่างๆ เช่น การเมือง- ความมั่นคง วัฒนธรรม – สังคม เศรษฐกิจ กระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน เป็นต้น

ในวันเดียวกัน ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับการปฎิบัติมาตรการยกเว้นภาษีต่อสินค้าที่จำเป็นต่างๆ

ในการนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ประเมินว่า ถึงแม้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความท้าทายต่างๆ ความไร้เสถียรภาพจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 การแข่งขันระหว่างบรรดาประเทศมหาอำนาจพร้อมกับปัญหาความมั่นคงต่างๆ แต่อาเซียนยังคงประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ประชาคมและยืนหยัดบทบาทการเป็นศูนย์กลางในโครงสร้างของภูมิภาค  แต่เพื่อผลักดันการฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิด -19 จำเป็นต้องรักษาห่วงโซอุปทาน ฟื้นฟูการค้า เสร็จสิ้นการลงนามในข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ๆ เช่น อาร์ซีอีพี และขยายความร่วมมือเพื่อลดช่องว่างการพัฒนาภายในอาเซียน สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก รัฐมนตรีทุกท่านได้เรียกร้องให้ปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และจริงจัง เร่งจัดทำซีโอซีให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วและสอดคล้องกับกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 โอกาสนี้ ที่ประชุมได้เห็นพ้องให้โคลัมเบีย คิวบาและแอฟริกาใต้เข้าร่วมสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือทีเอซีและจัดพิธีลงนามเข้าร่วมทีเอซีของประเทศเหล่านี้ ซึ่งการรับสมาชิกเพิ่มได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทและสถานะของอาเซียนบนเวทีโลกในการขยายความร่วมมือ ผลักดันสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและโลก

ในการประชุมสภาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนครั้งที่ 19 ได้มีการหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติแผนการทั่วไปในการสร้างสรรค์ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนถึงปี 2025 ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ เจิ่นต๊วนแองประเมินว่า “ศักยภาพเศรษฐกิจอาเซียนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งเรามองเห็นตัวเลขการค้าและการลงทุนข้ามชาติที่ลดลง ดังนั้น เราต้องกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทักษะความสามารถในการผลิต ส่งเสริมการค้าและการลงทุนในภูมิภาคต่างๆ ธำรงห่วงโซ่มูลค่าของภูมิภาค ลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิกเพื่อปฏิบัติเป้าหมายผสมผสานเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างเต็มที่ ถึงแม้เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่แต่อาเซียนยังคงปฏิบัติคำมั่นที่ยั่งยืนในการผลักดันการผสมผสานเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึก ผมเชื่อมั่นว่า เราจะร่วมกันฟันฝ่าช่วงที่ลำบากนี้ไปได้และผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจในฐานะประชาคมเศรษฐกิจ”

ในการนี้ ได้มีการลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับมาตรการยกเลิกภาษีต่อสินค้าที่จำเป็นเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งสะท้อนความเป็นฝ่ายรุกของเวียดนามและประเทศต่างๆในการลดผลกระทบจากโรคโควิด -19 พร้อมทั้งอนุมัติรายงานของสภาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเพื่อเสนอต่อที่ประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37.

คำติชม