อีวีเอฟทีเอ สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนาม-อียู

Chia sẻ
(VOVWORLD) -บ่ายวันที่28พฤษภาคม ในการประชุมประจำเดือนของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม นายดว่านคักเวียด รองโฆษกกระทรวงฯได้ตอบคำถามต่างๆเกี่ยวกับการที่รัฐสภาเวียดนามให้สัตยาบันข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปหรืออีวีเอฟทีเอและข้อตกลงว่าด้วยการคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-อียูหรืออีวีไอพีเอ และการเคลื่อนไหวของจีนในทะเลตะวันออก

เมื่อวันที่12กุมภาพันธฺปี2020 รัฐสภายุโรปได้ให้สัตยาบันอีวีเอฟทีเอและอีวีไอพีเอ และเมื่อวันที่30มีนาคม สภายุโรปได้อนุมัติมติการให้สัตยาบันของรัฐสภายุโรปต่อข้อตกลงสองฉบับนี้อันเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนกฎหมายภายในอียูต่อการให้สัตยาบันอีวีเอฟทีเอ ส่วนข้อตกลงอีวีไอพีเอจะต้องรอการให้สัตยาบันของรัฐสภาประเทศสมาชิกอียู ซึ่งนายดว่านคักเวียด รองโฆษกกระทรวงฯได้กล่าวว่า ข้อตกลงสองฉบับนี้จะนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่และเป็นรูปธรรมต่อเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการและประชาชนทั้งสองฝ่ายเวียดนาม-อัยู สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างเวียดนาม-อียู ดังนั้นคาดว่าในที่ประชุมครั้งที่9สภาแห่งชาติจะพิจารณาให้สัตยาบันข้อตกลงทั้งสองฉลับนี้ 

เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวด้านพลเรือนของจีนที่เกาะฟู้เลิมสังกัดหมู่เกาะหว่างซาของเวียดนามรวมทั้งการดูดทรายและปลูกพืชผัก นายดว่านคักเวียด รองโฆษกกระทรวงฯได้ชี้ชัดว่า เวียดนามยืนยันหลายครั้งถึงการมีหลักฐานอย่างสมบูรณ์ทั้งทางประวัติศาสตร์และนิตินัยเพื่อยืนยันอธิปไตยต่อหมู่เกาะสองแห่งคือหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลี่ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงและมีความสอดคล้องกับกฎหมายสากล ดังนั้นการเคลื่อนไหวต่างๆในเขตนี้โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากฝ่ายเวียดนามก็ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของเวียดนามและกฎหมายสากล

ต่อคำถามเกี่ยวกับมุมมองของเวียดนามต่อการที่จีนอนุมัติมติจัดทำกฎหมายความมั่นคงฮ่องกง นายดว่านคักเวียด รองโฆษกกระทรวงฯเผยว่า เวียดนามติดตามสถานการณ์ฮ่องกงอย่างต่อเนื่องและสนับสนุนนโยบาย1ประเทศสองระบบของจีน โดยทุกปัญหาเกี่ยวข้องกับฮ่องกงก็เป็นกิจการภายในของจีน ซึ่งเวียดนามปรารถนาว่าสถานการณ์ของฮ่องกงจะมีเสถียรภาพและมีการพัฒนารุ่งเรืองต่อไป.         

คำติชม