|
รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์กับรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม |
(VOVworld) – ในสภาวะการณ์ที่จีนเพิ่มการกระทำที่ยั่วยุเพื่อปฏิบัติคำเรียกร้องที่ไร้เหตุผลเกี่ยวกับอธิปไตยในทะเลตะวันออก บรรดาประเทศอาเซียนควรขยายความสัมพันธ์ระหว่งกันและเร่งให้จีนเข้าร่วมการเจรจาเกี่ยวกับร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซี นี่คือคำวิเคราะห์ของสื่อมวลชนระหว่างประเทศเนื่องในโอกาสการเยือนเวียดนามของนายอัลเบิร์ด เดล โรซารีโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์
บทความบนเว็ปไซต์ของสถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่นวันที่ 3 กรกฎาคมระบุว่า รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์และผู้นำเวียดนามได้ประท้วงการที่จีนละเมิดกฎหมายสากลเนื่องจากติดตั้งแท่นขุดเจาะอย่างผิดกฎหมายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนาม ในการพบปะระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์กับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามฝามบิ่งมิงห์ รัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ย้ำถึงความสำคัญที่บรรดาสมาชิกอาเซียนต้องร่วมกันเรียกร้องให้จีนแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกอย่างสันติ
ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนปัจจุบัน ทุกประเทศสมาชิกอาเซียนควรแสดงเจตนารมณ์แห่งความสามัคคีในการผลักดันการเจรจากับจีนเกี่ยวกับร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีที่ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันแล้วแต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องต่างๆจะมีขึ้น ณ ประเทศพม่าในต้นเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสให้เวียดนาม ฟิลิปปินส์และบรรดาประเทศอาเซียนเรียกร้องให้จีนผลักดันการเจรจาเกี่ยวกับซีโอซี
ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์ของอังกฤษก็ได้พาดหัวข่าววันที่ 3 กรกฎาคมว่า “เวียดนามและฟิลิปปินส์หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออก” โดยมีเนื้อหาว่า “ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการกระทำของจีนที่กำลังทำให้สถานการณ์ในทะเลตะวันออกตึงเครียดยิ่งขึ้น ผู้นำเวียดนามกำลังพิจารณาอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการต่อกรณีที่จีนติดตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง 981 อย่างผิดกฎหมายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนาม
บรรดานักการทูตและผู้เชี่ยวชาญเผยว่า จากภัยคุกคามของจีนต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ไม่เพียงแต่เวียดนามและฟิลิปปินส์เท่านั้น แต่ประเทศอื่นๆในเอเชียต้องขยายความสัมพันธ์กันเพื่อรับมือกับประเทศจีน./.