สำนักข่าวรอยเตอร์ ประเทศสหรัฐได้รายงานข่าวเกี่ยวกับรัฐพิธีศพของเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง โดยมีผู้นำของประเทศต่างๆ คณะทูตนุทูต ตัวแทนขององค์กรระหว่างประเทศและเพื่อนมิตรต่างประเทศเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
ในข่าวและบทความเกี่ยวกับรัฐพิธีศพเป็นเวลา 2 วัน สำนักข่าวเอพี ประเทศสหรัฐ เดอะเทเลกราฟ ประเทศอังกฤษ และสำนักข่าวเอเอฟพี ประเทศฝรั่งเศสได้ระบุว่า ประชาชนเวียดนามหลายพันคนแม้อยู่ใกล้หรือไกลได้หลั่งไหลเดินทางมาที่กรุงฮานอยเพื่อรอเข้าไว้อาลัยเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ณ อาคารจัดงานศพแห่งชาติและบ้านเกิดของท่านในอำเภอดงแอง
ส่วนสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ประเทศสหรัฐ ได้ย้ำถึงมรดกที่สำคัญของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคเหงวียนฟู้จ่อง รวมถึงความพยายามในการทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ด้านอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลก
ในขณะเดียวกัน สำนักข่าว DPA ของเยอรมนีได้ลงบทความสรุปรัฐพิธีศพเป็นเวลา 2 วัน โดยยืนยันว่า ใน 3 สมัยดำรงตำแหน่งผู้นำพรรค เลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียอีกด้วย
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม สำนักข่าวสำคัญๆของจีนหลายสำนักได้รายงานข่าวเกี่ยวกับรัฐพิธีศพของเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้ฟู้จ่อง โดยอ้างคำกล่าวของประธานรัฐสภาจีน ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการใหญ่พรรคและประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง ที่เดินทางมาเวียดนามเพื่อเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยว่า เลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง เป็นนักคิดที่ยืนหยัดลัทธิมาร์กซิสต์ที่แน่วแน่ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประชาชนเวียดนามและเป็นเพื่อนที่ดีของประชาชนจีน การจากไปของท่านเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของภารกิจการสร้างสรรค์สังคมนิยมในเวียดนาม และภารกิจเพื่อสันติภาพและความก้าวหน้าของมนุษยชาติ
สำนักข่าวลาวลงบทความที่ระบุว่า เลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ได้มีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ มีคุณค่า และมีความสำคัญในการทำนุบำรุงมิตรภาพความสามัคคีพิเศษ และความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองพรรค สองรัฐและประชาชนลาวและเวียดนาม
ส่วนสำนักข่าวคิวบาได้ลงข่าวเกี่ยวกับการเดินทางมาเวียดนามของประธานรัฐสภาคิวบา เอสเตบัน ลาโซ เฮอร์นันเดซ โดยย้ำถึงส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ของเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ต่อการพัฒนาประเทศเวียดนาม ตลอดจน “ความสามัคคีและความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง” ที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นระหว่างประชาชน พรรคคอมมิวนิสต์ และรัฐบาลของทั้งสองประเทศ.