โรงงานนิวเคลียร์แห่งหนึ่งของอิหร่าน (REUTERS) |
ในแถลงการณ์ที่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย TruthSocial เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนตามเวลาสหรัฐ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศว่า สหรัฐได้ทิ้งระเบิดโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่งคือโรงงานฟอร์โดว์ นาตันซ์ และเอสฟาฮาน ผู้นำสหรัฐเผยว่า ภายหลังการทิ้งระเบิด เครื่องบินของสหรัฐได้ออกจากน่านฟ้าของอิหร่านทันที
การโจมตีของสหรัฐถือเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำเนียบขาวได้ประกาศว่า ประธานาธิบดี ทรัมป์ จะมีการตัดสินใจภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้าว่า จะเข้าแทรกแซงการปะทะระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านหรือไม่
ภายหลังการโจมตีทางอากาศของสหรัฐใส่โรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่านเพียงไม่กี่ชั่วโมง เมื่อค่ำวันที่ 21 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ โดยยืนยันว่า “โรงงานนิวเคลียร์สำคัญของอิหร่านถูกทำลายแล้ว” และเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่า “ความสำเร็จทางทหารที่ยิ่งใหญ่”
ในวันเดียวกัน อิหร่านได้มีท่าทีตอบโต้การโจมตีทางอากาศของสหรัฐ โดยผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของอิหร่านหรือ IRIB ได้ประกาศว่า พลเมืองและทหารสหรัฐทั้งหมดในภูมิภาคนี้กลายเป็นเป้าหมายโจมตีที่ถูกต้องตามกฎหมายของอิหร่าน
หลังจากที่สหรัฐโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อคืนวันที่ 21 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ผู้นำโลกหลายคนได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยุติการปะทะ คลี่คลายความตึงเครียดและเริ่มต้นการเจรจา รวมทั้ง เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ กระทรวงต่างประเทศของเม็กซิโก กระทรวงต่างประเทศเวเนซุเอลา ประธานาธิบดีคิวบา รัฐบาลออสเตรเลีย กระทรวงการต่างประเทศของนิวซีแลนด์
วันที่ 22 มิถุนายน สภาความมั่นคงแห่งชาติของสาธารณรัฐเกาหลีได้จัดการประชุมเพื่อหารือถึงการรับมือการโจมตีอิหร่านของสหรัฐ รวมถึงผลกระทบของการโจมตีดังกล่าวต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเกาหลี.