นายกรัฐมนตรีฮังการี Viktor Orban ได้ประกาศว่า "โลกมีความปลอดภัยมากขึ้น" หลังการพบปะระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ณ รัฐอลาสก้า ในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี Peter Szijjarto ได้แสดงความเห็นบนแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก X ว่า การพบปะดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นอีกครั้งว่า ความขัดแย้งในยูเครนนั้นจะไม่ได้รับการแก้ไขที่สนามรบแต่จะอยู่ที่โต๊ะเจรจา  

ส่วนประธานาธิบดีโลวาเกีย Peter Pellegrini ได้ประเมินว่า บรรยากาศแห่งความเคารพซึ่งกันและกันตลอดการประชุมระหว่างผู้นำรัสเซียและสหรัฐ มีส่วนช่วยเปิดทางสู่การเจรจารอบต่อไปเพื่อมุ่งสู่สันติภาพในระยะยาวในยูเครน สำหรับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ Keir Starmer ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อการที่สหรัฐ พร้อมที่จะให้คำมั่นต่าง ๆ ต่อการค้ำประกันความมั่นคงให้กับยูเครนอย่างแข็งขันตามข้อตกลงทุกฉบับเพื่อยุติความขัดแย้ง

ในขณะเดียวกัน บรรดาผู้นำยุโรปหลายประเทศได้ร่วมยืนยันว่า จะยังคงให้ความช่วยเหลือยูเครนในระหว่างกระบวนการแก้ไขข้อขัดแย้ง โดยในแถงการณ์ร่วม นายกรัฐมนตรีเยอรมนี Friedrich Merz ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Keir Starmer และนายกรัฐมนตรีอิตาลี Giorgia Meloni นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ Donald Tusk ประธานาธิบดีฟินแลนด์ Alexander Stubb ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen และประธานสภายุโรป Antonio Costa ได้ยืนยันว่า พร้อมที่จะทำงานร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดี Zelensky เพื่อมุ่งสู่การจัดการประชุมสุดยอดไตรภาคีด้วยการสนับสนุนจากยุโรป

ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ยูเครนต้องการ “มาตรการค้ำประกันความมั่นคงที่แน่นอน” เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนและ “สิทธิในการตัดสินใจจะต้องเป็นของยูเครน” อีกทั้งยืนยันว่า บรรดาประเทศต่างๆ ในยุโรปจะยังคงยืนหยัดเคียงข้างยูเครนต่อไป เพื่อมุ่งสู่การยุติความขัดแย้งและบรรลุสันติภาพที่เป็นธรรมและยั่งยืน.