การประชุมสภาแห่งชาติ (Photo VNplus)

ในการรายงานเกี่ยวกับร่างกฎหมายฉบับนี้ นายฟานแทงบิ่งห์ หัวหน้าคณะกรรมาธิการวัฒนธรรม การศึกษา เยาวชน ยุวชนและเด็กแห่งสภาแห่งชาติได้เผยว่า ชื่อของกฎหมาย ขอบเขตและขั้นตอนอนุมัติร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติในการประชุมครั้งที่ 3 ของสภาแห่งชาติ

นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังได้รับการหารือในการประชุมครั้งที่ 5 นัดที่ 26 และ 17 ของคณะกรรมการสามัญสภาแห่งชาติ การประชุมผู้แทนรัฐสภาอาชีพเมื่อเดือนกันยายนปี 2018 และคณะผู้แทนสภาแห่งชาติก็ได้แสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายฉบับนี้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เห็นพ้องเกี่ยวกับความจำเป็น เนื้อหาและขอบเขตที่ต้องแก้ไขและเผยว่า ร่างกฎหมายฯ สามารถตอบสนองความต้องการ และมีความสมบูรณ์เพื่อยื่นเสนอให้สภาแห่งชาติอนุมัติ ในความเป็นจริง แม้จะมีเนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องกันกับกฎหมายการศึกษาแต่กฎหมายการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยจะปฏิบัติตามหลักการและกลไกขั้นพื้นเกี่ยวกับการศึกษาและฝึกอบรมเท่านั้น ส่วนเนื้อหาของร่างกฎหมายสองฉบับนี้มีเนื้อหาที่สอดคล้องกัน นายฟานแทงบิ่งห์ยืนยันว่า            “จำเป็นต้องอนุมัติกฎหมายการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในการประชุมครั้งนี้เพื่อสร้างกรอบทางนิตินัยให้มหาวิทยาลัยต่างๆสามารถพึ่งพาตนเองในด้านเงินทุน มีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงใหม่และยกระดับคุณภาพการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย คณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติเห็นว่า การแก้ไขและเพิ่มเติมกฎหมายฉบับนี้เน้นขยายขอบเขตและยกระดับประสิทธิภาพ การใช้นโยบายพึ่งพาตนเองสำหรับมหาวิทยาลัยต่างๆเพื่อค้ำประกันโครงสร้างของกฎหมายฉบับนี้และอำนวยความสะดวกให้การบังคับใช้มีความเป็นเอกภาพ ส่วนนโยบายอื่นๆยังคงสอดคล้องกับสถานการณ์การปฏิบัติ จึงไม่ต้องมีการปรับปรุง”.