โดยในด้านธุรกิจรถยนต์ กลุ่มบริษัท PSA ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อ Peugeot, Citroen และ Opel ได้ประกาศเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า จะยุติการประกอบธุรกิจในอิหร่าน ซึ่งเป็นตลาดต่างประเทศหลักของ PSA ส่วนกลุ่มบริษัท Renault เผยว่า มีแผนการประกอบธุรกิจในอิหร่านต่อไป เมื่อปี 2017 กลุ่มบริษัท Volkswagen ของเยอรมนีได้ประกาศว่า จะพยายามฟื้นฟูการประกอบธุรกิจในอิหร่านหลังยุติมาเป็นเวลา 17 ปี แต่การตัดสินใจของสหรัฐอาจส่งผลให้บริษัทนี้ต้องยกเลิกแผนการดังกล่าว

ในด้านการบิน บริษัทผลิตเครื่องบิน ATR ของฝรั่งเศสและอิตาลีมีความกังวลเกี่ยวกับเครื่องบิน 20 ลำที่อิหร่านสั่งซื้อแม้วันที่ 4 สิงหาคม สายการบิน Iran Air ของอิหร่านได้เผยว่า จะรับเครื่องบิน ATR – 72600 รวม 5 ลำในวันที่ 5 สิงหาคมก่อนที่มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ ส่วนบริษัท Airbus เผยว่า ไม่ได้รับผลกระทบมากนักในตลาดอิหร่านแม้สามารถส่งมอบเครื่องบินได้ 3 ลำจากจำนวน 100 ลำที่อิหร่านสั่งซื้อ ในขณะเดียวกัน สายการบิน British Airways ของอังกฤษและ Lufthansa ของเยอรมนีอาจยุติการให้บริการเส้นทางบิงไปยังอิหร่านที่เพิ่งเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อเร็วๆนี้ ส่วนหน่วยงานการท่องเที่ยวของฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนีและอังกฤษก็จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากหากยุติการประกอบธุรกิจในอิหร่าน

ในด้านปิโตรเลียม กลุ่มบริษัทพลังงาน Total ของฝรั่งเศสกำลังพยายามหลีกเลี่ยงความเสียหายจากร่างโครงการมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อพัฒนาบ่อก๊าซในเขตทะเลนอกฝั่ง South Pars ของอิหร่าน กลุ่มบริษัท BP ของอังกฤษจะยุติการประกอบธุรกิจในอิหร่าน ส่วนกลุ่มบริษัท Royal Dutch Shell ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ที่ได้ลงนามในข้อตกลงพิจารณาการลงทุนในอิหร่านก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในอิหร่าน.