ที่วัดเอียนตื๊อ เมืองอวงบี๊ จังหวัดกว๋างนิง ผู้ที่มีสมณศักดิ์ พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนได้จุดธูปเพื่อรำลึกถึงประธานโฮจิมินห์ เลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่องและวีรชนทหารพลีชีพเพื่อชาติ นาย เหงวียนจ่องต๊าย อาศัยในจังหวัดกว๋างนิงได้เผยว่า
“พิธีไว้อาลัยท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง และพิธีรำลึกถึงวีรชนทหารพลีชีพเพื่อชาติของพุทธสมาคมเวียดนามสาขาจังหวัดกว๋างนิง ณ วัดนิกายจุ๊กเลิมเอียนตื่อจัดขึ้นตามความปรารถนาของประชาชน โดยภาพของท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่องจะอยู่ในใจของประชาชนเวียดนามตลอดกาล”
 คณะกรรมการพุทธสมาคมเวียดนามสาขาจังหวัดเถื่อเทียนเว้ได้ตั้งหิ้งบูชาท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง |
ในวันเดียวกัน คณะกรรมการพุทธสมาคมเวียดนามสาขาจังหวัดเถื่อเทียนเว้ได้ตั้งหิ้งบูชาท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ณ ศาลาตื่อด่าม เพื่อให้พระสงฆ์ พุทธศาสนิกชนและประชาชนมาไว้อาลัยท่าน เหงวียนฟู้จ่อง นาย เลกวางกื่อ ชาวบ้านคนหนึ่งได้เผยว่า
“การจากไปของท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ต่อประเทศ สร้างความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมากให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ท่านได้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อประเทศและประชาชนเพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเวียดนาม โดยท่านได้ทิ้งมรดกที่มีค่าไว้ให้มาก”
 คณะกรรมการพุทธสมาคมเวียดนามสาขาจังหวัดหวิงลองได้จัดพิธีไว้อาลัยท่านเลขาธิการใหญ่พรรค |
ในขณะเดียวกัน ณ วัดพระหยก ในแขวงเตินหงาย เมืองหวิงลอง คณะกรรมการพุทธสมาคมเวียดนามสาขาจังหวัดหวิงลองได้จัดพิธีไว้อาลัยท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง พระมหาเถระ เซินหงอกวิง รองหัวหน้าคณะกรรมการพุทธสมาคมเวียดนามสาขาจังหวัดหวิงลองดูแลพุทธศาสนานิกายนามตงเขมรได้เผยว่า
“ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง เป็นผู้นำที่ทุ่มเทตลอดชีวิตเพื่อประชาชนและประเทศ โดยการจากไปของท่านได้สร้างความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมากในหมู่ประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งประชาชนจังหวัดหวิงลอง”
ส่วนชนเผ่าเขมรที่จังหวัดซอกจัง ได้เผยว่า การจากไปของท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของพรรค กองทัพและประชาชนทั่วประเทศ พระมหาเถระ เซินเฟือกเหลย เจ้าอาวาสวัด Ô Chum Aram Prếk Chếk อำเภอเมืองหงานัม จังหวัดซอกจังได้เผยว่า
“ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง เป็นผู้นำที่เคารพรักของประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ 54 ชนเผ่า ภายใต้การนำของท่าน ประเทศมีการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเขมรนับวันได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น”.