ในบทความนี้ มหาบัณฑิต Patrick Horvath ได้ถือว่า ทั้งเวียดนามและออสเตรียต่างมีประสบการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีผลต่อการพัฒนาอัตลักษณ์ของประเทศจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในศตวรรษที่ 19 ออสเตรียได้ผ่านสงครามที่ดุเดือดเพื่อต่อต้านการขยายอิทธิพลของฝรั่งเศสในยุโรป สงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสของเวียดนามก็คล้ายๆกับสงครามดังกล่าว ดังนั้นทั้งออสเตรียและเวียดนามต่างตระหนักได้ดีเกี่ยวกับคุณค่าของเสรีภาพและการต่อสู้กับการถูกกดขี่ขูดรีดจากศัตรูต่างชาติที่เข้ามารุกราน
ในบทความนี้ คุณ Patrick Horvath ยังแนะนำชาวออสเตรียคนหนึ่งที่ได้เคียงบ่าเคียงไหล่ในการต่อสู้ของพลเอกหวอเงวียนย้าป นั่นคือคุณ Ernst Frey เกิดเมื่อปี 1915 และเสียชีวิตเมื่อปี 1994 ที่ใช้นามแฝงคือ เหงียนเยิน คุณ Ernst Frey เป็นชาวออสเตรียเชื้อสายยิว เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ที่ต้องหนีจากระบบเผด็จการในออสเตรียด้วยเหตุผลด้านการเมืองแล้วได้เข้าร่วมขบวนการคอมมิวนิสต์และเวียดมิงห์ในเวียดนาม เคยได้รับการแต่งตั้งยศเป็นพันเอกตามคำสั่งของพลเอก หวอเงวียนย้าป เนื่องจากมีผลงานด้านการทหาร ก่อนถึงแก่อสัญกรรมไม่นาน คุณ Ernst Frey ได้เขียนจดหมายถึงพลเอกหวอเงวียนย้าปโดยยืนยันว่า สำหรับตนเอง เวียดนามเป็นประเทศเดียวที่ตนพร้อมสละเลือดเนื้อ
ปัจจุบันนี้ ออสเตรียและเวียดนามเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศ การค้าระหว่าง 2 ประเทศนับวันได้รับการพัฒนาด้วยมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เวียดนามของออสเตรียนับวันเพิ่มมากขึ้น อยู่ที่ 1 พันล้านยูโรต่อปี จากการมีอุตสาหกรรมที่พัฒนา ออสเตรียมีศักยภาพสูงเพื่อกลายเป็นนักลงทุนสำคัญของเวียดนามในอนาคต
ในท้ายของบทความ คุณ Patrick Horvath ได้ย้ำว่า การที่เวียดนามประสบความสำเร็จในการปกป้องเสรีภาพที่ยึดคืนจากนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสเป็นผลงานที่สำคัญเป็นอย่างมาก
เนื่องในโอกาสรำลึกครบรอบ 110 ปีวันคล้ายวันเกิดของพลเอกหวอเงวียนย้าป คุณ Patrick Horvath ได้แสดงความหวังว่า ออสเตรียและเวียดนามจะร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตที่มีเสรีภาพสันติภาพและมิตรภาพ.