นายหวูดึ๊กดาม รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐบาลในการแถลงข่าวประจำของรัฐบาล

นายหวูดึ๊กดามได้ย้ำว่าข้อเสนอของรัฐบาลในการเพิ่มเพดานการขาดดุลงบประมาณจากร้อยละ4.8ขึ้นเป็นร้อยละ5.3นั้นมีเป้าหมายเพื่อค้ำประกันแหล่งเงินทุนตามแผนการปี2013 นอกจากนั้นรัฐบาลยังคงปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงเพื่อเร่งรัดการถอนทุนที่รัฐวิสาหกิจลงทุนนอกสาขาหลักโดยเฉพาะในด้านอสังหาริมทรัพย์และหุ้นเพื่อเน้นการลงทุนในด้านที่สำคัญและจำเป็นเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคม แต่กระบวนการถอนทุนนั้นจะต้องได้รับการปฏิบัติตามกฎระเบียบของเศรษฐกิจเชิงตลาดและหลีกเลี่ยงการสร้างความวุ่นวายให้แก่ตลาดและสูญเสียทรัพย์สินของรัฐการถอนทุนต้องปฏิบัติให้เร็วที่สุดตามกลไกตลาดโดยผ่านนโยบายและมาตรการที่เป็นรูปธรรมต่างๆโดยเฉพาะการเร่งรัดแต่ละสถานประกอบการให้ถอนทุนส่วนไหนและอย่างไร ต้องปฏิบัติทุกมาตรการตั้งแต่เรื่องเงินทุน ภาษีไปจนถึงเรื่องหุ้นในตลาด
ส่วนในการประชุมประจำเดือนตุลาคมของรัฐบาลที่มีขึ้นวันเดียวกันภายใต้อำนวยการของนายกฯเหงวียนเติ๊นหยุง บรรดาสมาชิกรัฐบาลได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์การปฏิบัติหน้าที่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในช่วง10เดือนที่ผ่านมาและมาตรการในช่วงต่อไปด้วยความตั้งใจที่จะพยายามบรรลุทุกเป้าหมายที่วางไว้ในปี2013 โดยในรอบ10เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศได้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างถูกทิศทางและน่ายินดี เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะเสถียรภาพ เงินเฟ้อถูกควบคุม อัตราดอกเบี้ยลดลง การผลิตเกษตรและอุตสาหกรรมมีสัญญาณที่ดีขึ้น นโยบายด้านสวัสดิการสังคมและงานทำได้รับการค้ำประกัน ความมั่นคงทางการเมืองและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคมได้รับการรักษามั่นคงต่อไป
ในการสรุปการประชุม นายกฯได้ชี้ชัดว่า จากนี้จนถึงปลายปีกระทรวง หน่วยงานต่างๆต้องยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมเงินเฟ้อ แก้ไขอุปสรรคให้แก่ภาคการผลิตประกอบธุรกิจและรักษาสวัสดิการสังคม ซึ่งนายกฯได้ย้ำว่าการบรรลุเป้าหมายการขยายตัวที่ร้อยละ5.4นั้นมีความหมายสำคัญยิ่งสำหรับปี2013นี้อันเป็นการวางพื้นฐานให้แก่การบรรลุอัตราที่สูงกว่าในปีต่อๆไป ในขณะเดียวกันต้องเตรียมแผนการสนองสินค้าในช่วงปลายปีและตรุษเต๊ต พร้อมทั้งควบคุมราคาสินค้าให้มีเสถียรภาพ แก้ไขและลงโทษกรณีกักตุนสินค้าเพื่อเก็งกำไรให้เข้มงวด
นายกฯยังกำชับให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศต้องให้ความสนใจชี้นำและปฏิบัตินโยบายในด้านอื่นๆทั้งด้านสวัสดิการสังคม การสร้างงาน การแก้ปัญหาความยากจน การป้องกันและแก้ไขผลเสียหายจากภัยธรรมชาติ การปฏิรูประเบียบราชการ รวมไปถึง การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆเกี่ยวกับสถานการณ์ในทุกด้านของประเทศอย่างสมบูรณ์เพื่อสร้างความเข้าใจและเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในการปฏิบัติทุกเป้าหมายให้ลุล่วงไปด้วยดี./.