|
สถานการณ์ความรุนแรงในยูเครน |
(VOVWorld)-วันที่๒๑กุมภาพันธ์ รัฐสภายูเครนได้ลงคะแนนเห็นชอบการยุติยุทธนาการต่อต้านการก่อการร้ายในทั่วประเทศและการตัดสินใจดังกล่าวได้มีผลบังคับใช้ทันที
ข้อมูลจากพรรคBatkivshina ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านในยูเครนได้เผยว่า มติของรัฐสภายูเครน รวมไปถึงการปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมและห้ามกองกำลังของรัฐบาลปิดล้อมถนนสายต่างๆ ซึ่งตามนั้น กองกำลังของกระทรวงมหาดไทยของยูเครนจะยุติการปิดล้อมถนนสายหลักต่างๆทั่วประเทศ ส่วนกองทัพจะถอนกลับไปที่ตั้ง นอกจากนี้ ทางการยูเครนจะให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะในเวลาที่ผ่านมา
มติของรัฐสภายูเครนมีขึ้นภายหลัง๑วันที่ยูเครนเปิดยุทธนาการต่อต้านการก่อการร้ายในทั่วประเทศ โดยใช้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายเพื่อรับมือกับกระแสการชุมนุมประท้วงรัฐบาลเพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในเขตชายแดน แต่อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล รวมทั้ง กลุ่มคนหัวรุนแรงได้ทำการลอบวางเพลิงและโจมตีใส่กองกำลังรักษาความมั่นคง ซึ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอีก ตามข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขของยูเครน ตั้งแต่วันที่๑๘กุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน ได้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย๗๕คน ส่วนฝ่ายค้านได้เผยว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตมีกว่า๑๐๐คน เฉพาะ๓วันที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ๖๐๐คนจากเหตุการใช้ความรุนแรง
ในขณะเดียวกัน จากความกังวลเรื่องการใช้ความรุนแรงในยูเครน สหภาพยุโรปหรืออียู สหรัฐและประเทศตะวันตกได้เพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลยูเครน โดยเมื่อวันที่๒๐กุมภาพันธ์ อียูได้จัดการประชุมฉุกเฉินในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยเห็นพ้องจะประกาศคำสั่งอายัดทรัพย์สินและห้ามการเดินทางเข้าอียูต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนบางนาย แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของรายชื่อดังกล่าว บรรดารัฐมนตรีอียูยังได้เห็นพ้องที่จะยุติการส่งออกอุปกรณ์ปราบจลาจลให้แก่ยูเครน พร้อมทั้ง จะให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและออกวีซ่าให้แก่บรรดาผู้ที่มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน
ในคืนวันเดียวกัน ทูตพิเศษของอียู๓นายที่กำลังประกฎตัว ณ กรุงเคียฟ ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส เยอรมนีและโปแลนด์ได้มีการพบปะกับประธานาธิบดียูเครน วิกตอร์ ยานูโควิชและแกนนำของฝ่ายค้านเพื่อหารือเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาก่อนกำหนด การแก้ไขรัฐธรรมนูญและการจัดตั้งชุดใหม่ในยูเครน./.