ภาพของพิธีต้อนรับ |
นี่เป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกของนาย อนุรา กุมารา ดิษณายากะ ในฐานะประธานาธิบดีศรีลังกา ซึ่งมีขึ้นประจวบกับโอกาสที่ทั้งสองประเทศรำลึกครบรอบ 55 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต มีส่วนช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง ผลักดันความร่วมมือในทุกด้านอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผู้นำทั้งสองประเทศเข้าร่วมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน |
หลังพิธีต้อนรับ ผู้นำทั้งสองท่านได้เข้าร่วมการเจรจาเพื่อประเมินผลความร่วมมือทวิภาคีในเวลาที่ผ่านมา เสนอแนวทางความร่วมมือในเวลาที่จะถึง ในการเจรจา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ อำนวยความสะดวกให้แก่สินค้าที่เป็นจุดแข็งเจาะตลาดของกัน มุ่งสู่การเพิ่มความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทาน พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนประธานาธิบดีศรีลังกายืนยันว่า จะอำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการเวียดนามส่งเสริมการลงทุนในด้านที่ศรีลังกามีความต้องการสูง เช่น โครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคม การศึกษา สาธารณสุข เป็นต้น ขยายความร่วมมือในด้านการเกษตร ความมั่นคงด้านอาหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา วัฒนธรรม ศาสนา หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองประเทศได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารความร่วมมือ 5 ฉบับในด้านกรทูต การค้า ศุลากากร การเกษตรและการผลิตเครื่องยนต์.
ประธานประเทศ เลืองเกื่อง และประธานาธิบดีศรีลังกา เดินทางไปเยือนเขตโบราณสถานประธานโฮจิมินห์ในบริเวณทำเนียบประธานประเทศ |
ในเช้าวันเดียวกัน ประธานประเทศ เลืองเกื่อง และประธานาธิบดีศรีลังกา ได้เดินทางไปเยือนเขตโบราณสถานประธานโฮจิมินห์ในบริเวณทำเนียบประธานประเทศ หลังจากที่รับฟังเกี่ยวกับอัตชีวประวัติและภารกิจของประธาน โฮจิมินห์ ประธานาธิบดีศรีลังกาได้แสดงความเคารพรักต่อประธานโฮจิมินห์ ในฐานะเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ขบวนการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพในโลก ซึ่งคุณค่าทางวัฒนธรรมโฮจิมินห์จะยังคงเป็นสะพานเชื่อมเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศในหลายด้านต่อไป
นาย อนุรา กุมารา ดิษณายากะ ประธานาธิบดีศรีลังกา ได้เดินทางไปเยือนวัดบ๊ายดิ๊ง(Photo: TTXVN) |
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม นาย อนุรา กุมารา ดิษณายากะ ประธานาธิบดีศรีลังกา ได้เดินทางไปเยือนวัดบ๊ายดิ๊ง จังหวัดนิงบิ่ง ในการนี้ ประธานาธิบดีศรีลังกา ได้ย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะวัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกันมากมายซึ่งอยู่อาศัยบนพื้นฐานคุณค่าของพุทธศาสนา ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายควรส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์นี้.