ฟอรั่มอาเซียน - ญี่ปุ่นครั้งที่ 35

Chia sẻ
(VOVWORLD) - เมื่อเช้าวันที่ 14 ตุลาคม นาย เหงียนก๊วกหยุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ หัวหน้าคณะผู้แทนเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนหรือ SOM ของเวียดนามและนาย ทาเคโอะ โมริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้เป็นประธานร่วมในฟอรั่มอาเซียน - ญี่ปุ่นครั้งที่ 35 โดยมีเจ้าหน้าที่อาวุโสจากประเทศอาเซียนและรองเลขาธิการอาเซียนเข้าร่วม 
ฟอรั่มอาเซียน - ญี่ปุ่นครั้งที่ 35 - ảnh 1ฟอรั่มอาเซียน - ญี่ปุ่นครั้งที่ 35 (http://hanoimoi.com.vn/

ทั้งสองฝ่ายได้ทบทวนความร่วมมืออาเซียน – ญี่ปุ่นในเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งการสรุปการปฏิบัติตามผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน – ญี่ปุ่น การเตรียมพร้อมให้แก่การประชุมสุดยอดอาเซียน - ญี่ปุ่นครั้งที่ 23 และหารือเกี่ยวกับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ

ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้ยืนยันว่า ทางการชุดใหม่ของญี่ปุ่นนำโดยนายกรัฐมนตรี ซูงะ โยซิฮิเดะ จะธำรงนโยบายของญี่ปุ่น ให้ความสำคัญต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพการเจรจาและความร่วมมือในภูมิภาคต่อไป ซึ่งเพื่อปฏิบัตินโยบายนี้ ญี่ปุ่นส่งเสริมความร่วมมือกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้ความสำคัญต่อบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ญี่ปุ่นสนับสนุนทัศนะของอาเซียนเกี่ยวกับอินโด - แปซิฟิก (AOIP) มีความประสงค์ว่า จะร่วมมือกับอาเซียนเพื่อปฏิบัติทัศนะนี้อย่างเป็นรูปธรรม สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคและโลก รัฐมนตรีช่วย ทาเคโอะ โมริ ได้ย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออก เรียกร้องให้สนทนาและยับยั้งกิจกรรมต่างๆที่ทำให้สถานการณ์มีความตึงเครียดและซับซ้อนมากขึ้น ไม่มีปฏิบัติการทางทหาร ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรง แก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล สำหรับปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลี ญี่ปุ่นย้ำถึงความปรารถนาที่จะให้คาบสมุทรเกาหลีที่สงบสุข ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์และกระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีควรได้รับการปฏิบัติบนหลักการที่รอบด้าน ได้รับการตรวจสอบและไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้

       ในฐานะประเทศผู้ประสานงานสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน - ญี่ปุ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเหงียน ก๊วกก๊วกหยุงได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายประสานงานอย่างใกล้ชิดในการรับมือกับโควิด-19 ต่อไป จัดตั้งศูนย์อาเซียนเกี่ยวกับปัญหาสาธารณสุขฉุกเฉินและโรคระบาดใหม่ (ASEAN CDC) อีกทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของประเทศต่างๆเกี่ยวกับความสำคัญของการค้ำประกันสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคในสภาวการณ์ในปัจจุบัน อีกทั้งย้ำจุดยืน หลักการของอาเซียนเกี่ยวกับทะเลตะวันออกที่ถูกระบุในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 36 เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2020 และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 53 เมื่อเดือนกันยายนปี 2020 มุ่งสู่การสร้างสรรค์ทะเลตะวันออกให้เป็นเขตทะเลที่สันติภาพ มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ .

คำติชม